ช่วยด้วย บ้านร้าว! ประชาชนที่พักอาศัยในหมู่บ้านสามัคคี 36 หมู่ 2 ตำบลพลาอำเภอบ้านฉางจังหวัดระยอง จำนวน 104 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 พัทยามาบตาพุด

ช่วยด้วย บ้านร้าว!
ประชาชนที่พักอาศัยในหมู่บ้านสามัคคี 36 หมู่ 2 ตำบลพลาอำเภอบ้านฉางจังหวัดระยอง จำนวน 104 หลังคาเรือนได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 พัทยามาบตาพุด โดยช่วงการก่อสร้างทางยกระดับตัดกับถนนสุขุมวิทเป็นทางยกระดับที่ก่อสร้างคู่ขนานกับทางรถไฟเดิม การก่อสร้างมีการเจาะเข็มขนาดใหญ่หลายจุดที่อยู่ใกล้บ้านพักของประชาชน และทางคู่ขนาด กับถนนสุขุมวิทช่วงยกระดับขึ้นสะพานถนนมีความสูงมากกว่าระดับบ้านเรือนของประชาชนทำให้ไม่ได้รับความปลอดภัยขอร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง



เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 20 ธันวาคม นายฉัตร แก้วประดิษฐ นิติกรศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง เป็นตัวแทน รับหนังสือ ร้องเรียนจาก น.ต.สถิต ปลัดศรี ประธานชุมชนหมู่บ้านสามัคคี 36 พร้อม กรรมการหมู่บ้าน จำนวน 6คน ที่ได้เดินทางเข้าร้องเรียน ถึงผลกระทบจากการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข7 (พัทยา-มาบตาพุด) เขตเทศบาลเมืองบ้านฉาง จ.ระยอง
 น.ต.สถิตย์ ประธานชุมชนฯ ได้กล่าวว่า ปัจจุบันหมู่บ้านสามัค 36 ม.2 ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง มีจำนวน กว่า 104 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบ จากการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข7 (พัทยา-มาบตาพุด) ที่ปัจจุบันผู้อยู่อาศัยหลากหลายอาขีพ ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้าง ทำให้บ้านแตกร้าวแล้วกว่า
20หลังคาเรือน จากการขุดเจาะเสาเข็ม ของโครงการดังกล่าว
และได้เคยร้องเรียนผ่าน เทศบาลเมืองบ้านฉางไปแล้ว เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 ต่อมา ได้รับหนังสือจากเทศบาลเมืองบ้านฉางได้แจ้งว่า ได้ส่งหนังสือร้องเรียนของประชาชนไปที่ แขวงการทาง
อำเภอบ้านฉาง เมื่อ 28 พฤศจิกายน 2560 เพื่อขอให้ผู้มีอำนาจในการพิจารณาในผลกระทบที่เกิดขึ้นเข้ามาดูแล ซึ่งปัจจุบัน ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากหน่วยงานรัฐแต่อย่างใดจึงได้เดินทางมาร้องเรียนที่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง อีกครั้ง
 นายเวชพิสิฐ ธรรมจันทร์ อาชีพทนายความ บ้านเลขที่ 9/137 ม.2 ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้เปิดเผยถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน ว่า บ้านเรือนที่อยู่ห่างจากระยะแท่นขุดเจาะ 10-20 ม.มีการแตกร้าว กระทบต่อโครงสร้างบ้าน
ทำให้เสียหายและไม่มีความปลอดภัยต่อชีวิตของผู้พักอาศัย และหากไม่มีความคืบหน้าในการช่วยเหลือความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิด ก็ต้องดำเนินการฟ้องศาลปกครอง ให้พิจารณาต่อไป
 ต่อมาคณะผู้ร้องเรียนได้พาผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ หมู่บ้านสามัคคี 36 ม.2 ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง พบว่า หมู่บ้านดังกล่าว เป็นบ้านทาวเฮ้าชั้นเดียว เนื้อ 26 ตรว.ได้รับผลกระทบ
จากโครงการ ถนนมอเตอร์เวย์ทางหลวงพิเศษหมายเลข7 ที่มีการก่อสร้าง ขุดเจาะเข็มขนาดใหญ่ ในหลายจุดใกล้บ้านเรือนประชาชน จนทำให้ บ้านพักอาศัยจำนวนกว่า20หลังคาเรือนเกิดการแตกร้าว พื้นกระเบื้องหลุด ออกมา เป็นแผ่น
และในจำนวนหลายหลัง เกิดการแตกร้าว ไปจนถึงหลังคาบ้าน ซึ่งเป็นไปตามข้อร้องเรียน
 น.ส.รัชณี เครืออ้ายตา บ้านเลขที่135 ม.2 ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง หนึ่งในจำนวนรายชื่อกว่า70 คน ที่ลงรายมือชื่อในหนังสือร้องเรียน ได้กล่าวว่าบ้านบางหลังยังมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ภายใน ทำให้ลูกหลานที่ไปประกอบอาขีพในประจำวัน เกิดความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของโครงสร้างตัวบ้าน ที่จะถล่มลงมาเมื่อใดไม่ทราบได้ จึงอยากวิงวอน
ขอให้หน่วนงานใด ก็ได้ เข้ามาดูแล
ในผลกระทบที่เกิดขึ้นของประชาชน ด้วย
 ด้านนายสุปนันท์ สังข์สุวรรณ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง ได้กล่าวว่า จะรีบดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยด่วน แล้วจะรีบแจ้งไปยังผู้ร้องในทันที
ขณะเดียวกัน ด้าน น.อ.จาริก พัวพานิช รอง (ท) กอ.รมน.จว.ระยองได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดระยอง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในทันที พร้อมกับรายงานให้รัฐบาล ทราบถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นของประชาชน ด้วยหวั่นกระทบต่อภาพลักษณ์ ของ
EEC ในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
ธานนท์ ตรีพลอักษร 0898331042
บรรยายภาพ///1/2/3/4/5///ภาพถ่ายด้วยตนเอง
น.ต.สถิต ประธานชุมชน ใส่ชุดทหาร สวมแว่นแว่นสายตา
นายเวชพิสิฐ ทนายความ สวมแว่นสายตา เสื้อคลุมสีดำ ยื่นหนังสือ
กับ ฉัตร ฯ นิติกร ศูนย์ดำรงธรรมเสิ้อขาว
 การก่อสร้างที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบ

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.