ระยอง สนธิกำลัง 10 หน่วยงาน จับ ผู้บุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน ปากน้ำ ระยอง
ธานนท์ ตรีพลอักษร. ระยอง
9 มีนาคม 2561 /เวลา 15.00 น.
ภูมิภาค / ทั่วไทย
090361 ระยอง สนธิกำลัง 10 หน่วยงาน จับ ผู้บุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน ปากน้ำ ระยอง
เจ้าหน้าที่ 10 หน่วยงานประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายฝั่งและป่าชายเลน เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 1 และ 3 เจ้าหน้าที่กองร้อยรักษาความสงบกองทัพเรือที่ 2 พัน ร. 7 กรม ร. 3 (พล.นย.) ค่ายมหาสุรสิงหนาท เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่สำนักงาน เจ้าท่าภูมิภาค 6 สาขาระยอง เจ้าหน้าที่สำนักงานเทศบาลนครระยอง เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง และเจ้าหน้าที่กอ.รมน. จังหวัดระยอง ลงพื้นที่ ตรวจสอบ กรณีมีผู้ร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ www.1111.go.th. สํานักนายกรัฐมนตรี ขอให้ตรวจสอบ การก่อสร้างห้องแถวรุกล้ำเขตอนุรักษ์ ป่าชายเลนแม่น้ำระยอง ถนนเลียบทะเล ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง โดย อาศัยอำนาจตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3 /2558 คำสั่งที่ 64/2557 คำสั่งที่ 66/2557 เข้าทำการตรวจสอบ และหากพบว่ากระทำผิดให้ดำเนินการจับกุม ดำเนินคดี ในเหตุที่เกิดขึ้น ตามข้อร้องเรียน
จากการลงพื้นที่ ป่าชายเลน บริเวณปากน้ำระยอง ชุมชนปากน้ำ 1 ตำบลปากน้ำอำเภอเมืองจังหวัดระยอง เป็นพื้นที่ชายฝั่งซึ่งอยู่ในเขตอนุรักษ์ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรีและเป็นพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 พบพื้นที่ป่าชายเลนถูกบุกรุก ยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์ ปลูกสร้าง เป็นห้องแถวชั้นเดียว จำนวน 9 ห้อง ห้องน้ำ 3 ห้องปลูกสร้างสำหรับเป็นที่พักคนงานบนเนื้อที่ 279 ตารางเมตร ซึ่งต่อมา มีนางสาวชลธิชา จำนงวารี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ถนนเลียบชายฝั่ง ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง แสดงตัวเป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว
สอบสวนนางสาวชลธิชา จำนงวารี ให้ถ้อยคำว่า ที่ดินดังกล่าวไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ โดยอยู่กันมา ด้วยวิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชน และประกอบอาชีพรับจ้างโดยได้รับจ้างเป็นผู้จัดการโรงงานตั้งเฮียบเซ้ง จำกัด ตั้งแต่ประมาณปี 2543 จนถึงปัจจุบัน และไม่ทราบว่าพื้นที่ บริเวณนี้เป็นเขตอนุรักษ์ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรีเนื่องจากมีการก่อสร้างบ้านพักคนงานมานานแล้ว และไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆในที่ดินจะนำมาแสดงต่อคณะเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่ จึงได้ให้ นางสาวชลธิชา นำคณะเจ้าหน้าที่ ทำการตรวจวัดขนาดพื้นที่ ที่ถูกบุกรุก ยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์โดยใช้เครื่องมือรับสัญญาณดาวเทียม GPS หาค่าพิกัด ปรากฏว่า คำนวณเนื้อที่ ที่ถูกบุกรุก 0-0-69 ไร่ โดยคิดเป็นค่าเสียหายของรัฐ ในอัตรา ไร่ละ 118,330 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20,411 บาท 93 สตางค์
ด้าน นางสาวชลธิชา กล่าวว่า อยู่ที่นี่มา 10 กว่าปีไม่เคยรู้ว่าเป็นผู้บุกรุก และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการตรวจสอบ ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ รู้แต่เพียงว่าอยู่กันมาแบบวิถีชาวบ้านจริงๆ
จากนั้น จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา และทำการจับกุม นางสาวชลธิชา จำนงวารี กระทำความผิด คือ 1 บุกรุกยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์ในพื้นที่ป่า ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ 2535 ในท้องที่ชุมชนปากน้ำ 1 ตำบลปากน้ำอำเภอเมืองจังหวัดระยอง ซึ่งมีฐานความผิดคือ ก่อสร้างแผ้วถางเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่หรือได้รับอนุญาตตาม กฎหมาย อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 54 55 และมาตรา 72 ตรี
2 ฐานเข้าไปยึดถือครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้าง หรือเผาป่า ทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย ในบริเวณที่ รัฐมนตรีประกาศหวงห้าม หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดินอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน พุทธศักราช 2497 มาตรา 9 และมาตรา 108 ทวิ
3 ฐานกระทำ หรือละเว้น การกระทำด้วยประการใดๆ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการทำลาย หรือทำให้สูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นของรัฐ หรือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามบุตรข้าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายสูญหายหรือเสียหายไป นั้น อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพ. ศ. 2535 มาตรา 97 นำส่งพนักงานสอบสวน สภ. เมืองระยอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
/////////////////////////////////
ธานนท์ ตรีพลอักษร 0898331042




ไม่มีความคิดเห็น