มท.1 เดินทางบัญชาการช่วยเหลือ 13 ชีวิต ทีมหมูบิน ด้านทหารขอให้สื่อระมัดระวังการเสนอข่าวสารด้านทหารขอให้สื่อระมัดระวังการเสนอข่าวสาร


มท.1 เดินทางบัญชาการช่วยเหลือ 13 ชีวิต ทีมหมูบิน 
                             ด้านทหารขอให้สื่อระมัดระวังการเสนอข่าวสาร


 พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกรทรวงมหาดไทยพร้อมด้วย พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 และผู้เกี่ยว
ข้องได้เดินทางมายังอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน บ้านจ้อง หมู่ 9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย มีนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากรผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้ิอมด้วย พลตรีบัญชา ดุริยพันธ์ ผบ.มทบ.37 ให้การต้อนรับ
 โดยพลเอกอนุพงษ์ ฯ ได้ประชุมหารือแนวทางในการปฏิบัติงานช่วยชีวิตเด็กๆพร้อมโค้ชรวม 13 คนที่หายตัวเข้าไปในถ้ำโดยได้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงได้เดินทางไปยังถ้ำหลวงฯ เพื่อเข้าไปยังภายในถ้ำเพื่อรับฟังรายงานการปฏิบัติการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งทางรัฐมนตรีได้สอบถามเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ไฟส่องสว่าง ระบบสื่อสารและการแก้ไขปัญหาระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นซึ่ง พล.ท.วิจักขฐ์ ได้รายงานว่าขณะนี้ทาง กสทช. ได้นำวิทยุสื่อสารลากสายเข้าไปเกือบ 3 กิโลเมตร ขณะที่สายไฟฟ้าได้ลากเข้าใกล้แอ่งน้ำที่จะใช้เครื่องสูบน้ำทำการดูดน้ำออกมาคาดว่าไม่เดิน 1 ชั่วโมงน่าจะเดินเครื่องได้ ที่กังวลคือระดับน้ำภายในถ้ำที่เพิ่มขึ้นซึ่งไม่ได้มีแค่น้ำแต่มีเลนไหลมาด้วยจึงทำให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความลำบาก แต่เชื่อว่าเด็กทั้งหมดยังปลอดภัย



ด้านพลตรีบัญชา กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่มาตืดตามทำข่าวว่าอยากให้สื่อทุกคนช่วยสองเรื่องคือ 1.ให้ทุกคนคำนึงถึงการเสนอข่าวสารที่ตระหนักถึงความรู้สึกของผู้ปกครองของเด็กๆ ขณะนี้ได้ตั้งเพลสเซ็นเตอร์ในการให้ข่าวสารแล้วเพื่อป้องกันการสับสน 2.วันนี้ มทบ.37 ได้นำโรงทานมาบริการอาหารประชาชนคนใดทำอาหารเป็นให้มาร่วมกันส่วนประชาชนที่อยากทราบข่าวสารให้รอชมข่าวสารทางบ้านไม่ต้องเดินทางเข้ามาเพราะจะทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก  ในขณะเดียวกันได้นำทหารมา 400 นายเพื่อนำท่อมาต่อกับเครื่องสูบน้ำออกจากถ้ำเป็นระยะทางถึง 3 กิโลเมตร  หากดำเนินการเสร็จเครื่องสูบน้ำสามารถเดินได้จะทำให้น้ำถ้ำลดลงแน่นนอน




ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.