ปลัดอาวุโสอำเภอนางรอง ขับรถกลับจากจับยา เสียหลักชนสยอง 2 ศพ พบไม่ได้หลบหนี


ปลัดอาวุโสอำเภอนางรอง ขับรถกลับจากจับยา เสียหลักชนสยอง 2 ศพ พบไม่ได้หลบหนี



ชมคลิป
   วันที่ 22 มิถุนายน  2561 เวลา 18.30 น.)  ศูนย์วิทยุตำรวจภูธรนางรอง จ.บุรีรัมย์ได้รับแจ้งเหตุมีรถชนมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ   พ.ต.อ.ภควัต ธรรมดี  ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนางรอง  พ.ต.ท ชาลี ปรังประโคน รองผู้กำกับ (ป.) สภ.นางรอง  พ.ต.ท.มานิตย์  สร้อยจิตร  รองผู้กำกับ  (สส.) สภ.นางรอง  ร.ต.อ.สุทนต์ กระจ่างจิตต์ รอง สว.สอบสวน สภ.นางรอง  เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจชุด 191  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จาก รพ.นางรอง  และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ประจำจุดอำเภอนางรอง เดินทางไปที่เกิดเหตุ    ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนทางหลวงชนบทสายหนองโบสถ์-หนองน้ำขุ่น หมายเลข 2004 แยกทางหลวงหมายเลข 24  บริเวณหน้าโรงเรียนทุ่งแสงทอง ตำบลทุ่งแสงทอง อำภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์  ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กจ 8950 บุรีรัมย์ ด้านหลังไม่สวมแผ่นป้ายทะเบียน ด้านหน้ารถมีผู้เสียชีวิตคาอยู่บริเวณฝากระโปรงรถคันดังกล่าวในสภาพพังเสียหาย ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือนาย อำนาจ  เขียวคล้าย หรือนายดี้ อายุ31 ปี ทำงานในตัวอำเภอนางรอง เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟสีแดง   หมายเลขทะเบียน  ขมว 864 บุรีรัมย์ สภาพพังเสียหาย ห่างกันพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง1ราย ทราบชื่อต่อมานางสาว เสาวลักษณ์  หรือ ลักษณ์  แก้วอรสาน อายุ 29 ปี
จากการสอบถามนายพิชัย แก้วอรสาน  อายุ  54 ปี พ่อของผู้เสียชีวิตฝ่ายหญิง เล่าว่าตนเองรับราชการที่โรงเรียนบ้านทุ่งโพธ์ หลังจากเกิดเหตุมีผู้ใหญ่บ้านมาแจ้งข่าวว่าลูกสาวถูกรถชนเสียชีวิตพร้อมลูกเขย ตนเองตกใจมาก จึงพากันออกมาดูและตามาที่โรงพยาบาลนางรองดังกล่าว และยังเล่าต่อไปอีกว่า ด้านลูกเขยและลูกสาวเป็นคนดีตั้งใจทำงานเป็นอย่างดี ไม่คิดว่าจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้
ต่อมานายราเยส ราย ได้ติดต่อกับผู้สื่อข่าว ว่าตนเองท่านไม่ได้หลบหนีตามเนื้อข่าวที่นำเสนอไป เนื่องจากว่า ทาง รพ.นางรองมีคนไข้เยอะ  จึงขอออกมารับการตรวจข้างนอก ก่อนเดินทางไปโรงพักด้วยตัวเอง ในขณะเดียวกันต้นนายอำเภอก็อยู่ด้วยกับตนเองที่โรงพยาบาล อีกด้วย  ซึ่งหลังจากที่ออกจาก รพ.ไปแล้วขาดการติดต่อนั้น ตนเองไปรักษาอาการบาดเจ็บที่ รพ.เอกชน ก่อนเข้ามาให้ปากคำที่สถานีตำรวจต่อไป .




/ภัทรพงศ์  ช้างเขียว ข่าวภาพ

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.