รองนายกฯเป็นประธานเปิดการประชุม"อนาตคประเทศไทยโจทย์วิจัยเพื่อประชาชน
รองนายกฯเป็นประธานเปิดการประชุม"อนาตคประเทศไทยโจทย์วิจัยเพื่อประชาชน
เมื่อวันที่๒๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๑
เวลา๐๙.๓๐น.ณ.ศูนย์ประชุมวายุภักษ์โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทาราศูนย์ราชการและคอนเวนซันเซ็นเตอร์
ชั้น๔แจ้งวัฒนะกรุงเทพมหา นคร
พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี
ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมเสวนาในหัวเรื่อง"อนาคตประเทศไทย
โจทย์วิจัยเพื่อประชาชนโดยมี ศาสตราจารย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล
เลขาธิการกรรมการวิจัยแห่งชาติ เป็นผู้กล่าวรายงาน
ด้วยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.)องค์กรหลักในการกำหนดนโยบายการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ
เลขานุการร่วมสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นประเทศสังคมฐานรากความรู้และเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม
ดังนั้นการวิจัยและนวัตกรรมจึงเป็นกลไกสำคัญในการนำประเทศให้เข้าสู่ไทยแลนท์๔.๐
โดยขับเคลื่อนบูรณาด้านการวิจัยและนวัตกรรมให้ตอบสนองต่อการพัฒนาเพื่อเพี่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศสร้างความมั้งคงทางอาชีพเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่า
รัฐบาลได้เล็งความสำคัญในการพัฒนางานวิจัยเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงงานวิจัยที่ตอบโจทย์ที่สำคัญตรงตามความต้องการของประเทศทั้งภาคอุสาหกรรมและภาคประชาชนผลักดันให้เกิดงานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืนพัฒนาคุณภาพชีวิตเพิ่มรายได้
ตลอดจนแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างแท้จริง การประชุม"อนาคตประเทศไทย
โจทย์วิจัยเพื่อประชาชน"เป็นการประชุมที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง"คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.).กับ
สำนักงบประมาณเพื่อระดมความคิดเห็นแลกเปลี่ยนเรียนรู้พร้อมกำหนดโจทย์วิจัยและนวัตกรรมหลักที่สำคัญของประเทศให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มอาชีพหลักของคนไทย
ทั้งภาคเกษตรกรรม"อุตสาหกรรม"และภาคบริการ
เพื่อให้เกิดผลงานวิจัยที่สามรถนำไปใช้ได้จริงตลอดถึงเป็นการเชื่อมโยงองค์ความรู้ต่องานวิจัย"โดยนำร่องใน๘กลุ่มอาชีพหลักของคนไทยเริ่มต้นจากภาคเกษตรกรรม"ภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นฐานรากการผลิตหลักและการจ้างงานงานสำคัญในกลุ่มพืชเศรษฐกิจที่มีจำนวนครัวเรือนเกษตรกรมากที่สุดตามลำดับได้แก่
"ข้าว"มันสำปะหลัง"ยางพารา"ปาล์มน้ำมัน"อ้อย"และไม้ผลเศรษฐกิจ"สำหรับในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการมุ่งเน้นอุตสาหกรรมที่มีศักย
ภาพในการพัฒนาโดยนำร่องในกลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและชุมชน
"ข้อมูลสำคัญในการกำหนดทิศทางการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศที่เชื่อมโยงให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ๒๐ปี
แผนพัฒนาเศรษกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่๑๒และยุทธศาสตร์ชาติ๒๐ปี
"เป็นกรอบการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศในปี๒๕๖๒และในปีต่อไป
ส่วนการประชุมในวันนี้ทางคณะกรรมการงานวิจัยแห่งชาติจะได้นำข้อมูลที่ได้รับจากการให้ข้อมูลแลกเปลี่ยนของแต่ละกลุ่มงานจะนำไปพัฒนาต่อยอดและลงพื้นที่วิจัยทั่วทุกหมู่บ้านที่ทางคณะกรรมการได้รับข้อมูลและจะลงพื้นที่ให้ครอบคลุมทั้ง๗๐๐๐๐
กว่าหมู่บ้านทั่วประเทศโดยขอความร่วมมือเครือข่ายวิจัยของประเทศเช่นเครือข่ายองค์กรบริหารงานวิจัยแห่งชาติ(คอบช)สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ)และมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศเป็นผู้ออกสำรวจผลงานวิจัยในปีงบประมาณ๒๕๖๒จนให้แล้วเสร็จทุกกลุ่มเครือข่ายทั่วประเทศเพื่อเป็นแผนงานการพัฒนาต่อไป.
ทีมงานข่าวรอบรั้วภูธรช่องทีวี๑๓สยามไทยรายงานจากศูนย์ประชุมวายุภักษ์โรงแรม
เซ็นทรา
บายเซ็นทาราศูนย์ราชการและคอนเวนซันเซ็นเตอร์ชั่น๔แจ้งวัฒนะกทม.
ไม่มีความคิดเห็น