ผู้ว่าประจวบ นำทีตรวจอ่างเก็บน้ำปราณบุรี หลังเร่งระบายน้ำในอ่าง เกรงกระทบประชาชน
เจริญ อาจประดิษฐ์/ประจวบคีรีขันธ์
ผู้ว่าประจวบ นำทีตรวจอ่างเก็บน้ำปราณบุรี หลังเร่งระบายน้ำในอ่าง เกรงกระทบประชาชน
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 6 ส.ค.61 นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินทางไปที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี อำเภอปราณบุรี เพื่อประชุมรับฟังการบรรยายสรุปและตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำปราณบุรี โดยมี นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายอำเภอปราณบุรี
นายไพโรจน์ คำทอน ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี นายยงยุทธ จุลานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานประจวบคีรีขันธ์ นายกิตติกรณ์ เทพอยู่อำนวย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
นายไพโรจน์ คำทอน ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่มีฝนตกชุกบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำปราณบุรีตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยข้อมูลวันที่ 6 ส.ค.61 มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง 8.4 ล้าน ลบ.ม.ดังนั้นจึงได้เร่งระบายน้ำออกเพื่อรักษาระดับให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม โดยเพิ่มการส่งน้ำตามคลองส่งน้ำสายใหญ่และระบายลงสู่แม่น้ำปราณบุรีรวมวันละประมาณ 9.5 ล้าน ลบ.ม.ส่งผลให้ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างอยู่ที่ 305.5 ล้าน ลบ.ม.จากความจุอ่าง 391 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็นร้อยละ 78 และจะทยอยระบายน้ำออกต่อเนื่องให้อยู่ในระดับกักเก็บที่ร้อยละ 70
ทั้งนี้ ทางโครงการได้มีการเฝ้าระวังติดตามผลกระทบจากการระบายน้ำอย่างใกล้ชิดโดยมีจุดตรวจวัดระดับน้ำจำนวน 7 จุด ได้แก่ ท่าน้ำวัดห้วยแสลงพันธ์ สถานีโรงสูบน้ำ กปภ.สาขาปราณบุรี สะพานธรรมรัชต์ สะพานวัดเขาน้อยล่าง สะพานดำ สะพานท่าลาดกระดาน สถานีตำรวจน้ำปากน้ำปราณ และมีจุดแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงประสบอุทกภัยจำนวน 4 จุด ได้แก่ ชุมชนบ้านเขาน้อยล่าง ชุมชนบ้านท่าลาดกระดาน ชุมชนบ้านปลายน้ำ และชุมชนบริเวณสี่แยกปราณบุรี ซึ่งผลจากการระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำปราณบุรี พบว่าทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปราณบุรีสูงขึ้นเฉลี่ยประมาณกว่า 1 เมตร แต่ยังต่ำกว่าแนวตลิ่ง และไม่มีผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริม 2 ฝั่งแม่น้ำปราณบุรีแต่อย่างใด
ด้าน นายยงยุทธ จุลานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ในส่วนของอ่างเก็บน้ำยางชุม ซึ่งมีขนาดกักเก็บรองลงมาจากอ่างเก็บน้ำปราณบุรี ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 33.8 ล้าน ลบ.ม.จากความจุอ่าง 41.1 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็นร้อยละ 81 ซึ่งขณะนี้ได้มีการระบายน้ำออกจากอ่างอยู่ที่วันละ 5.8 แสน ลบ.ม.และจะติดตั้งกาลักน้ำให้สามารถเพิ่มการระบายน้ำได้อีก 1.4 แสน ลบ.ม.รวม 7.2 แสน ลบ.ม.ขณะที่มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง วันละ 3.8 แสน ลบ.ม.ซึ่งผลจากการระบายน้ำพบว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง
ขณะที่ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการเดินทางมาตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำปราณบุรีทำให้ทราบว่าได้มีการบริหารจัดการน้ำที่ดีจึงไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เฝ้าระวังสภาวะลมมรสุมในระยะนี้ที่อาจจะทำให้ปริมาณน้ำในอ่างปราณบุรีรวมถึงอ่างเก็บน้ำต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น และให้ศูนย์ ปภ.เขต 4 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมอุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัยให้พร้อมสำหรับการช่วยเหลือประชาชน โดยให้นายอำเภอประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ติดตามผลกระทบที่่เกิดขึ้นกับประชาชนในหมู่บ้านชุมชนของตนเอง และให้แจ้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์น้ำให้ประชาชนทราบเป็นระยะ
////////
ผู้ว่าประจวบ นำทีตรวจอ่างเก็บน้ำปราณบุรี หลังเร่งระบายน้ำในอ่าง เกรงกระทบประชาชน
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 6 ส.ค.61 นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินทางไปที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี อำเภอปราณบุรี เพื่อประชุมรับฟังการบรรยายสรุปและตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำปราณบุรี โดยมี นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายอำเภอปราณบุรี
นายไพโรจน์ คำทอน ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี นายยงยุทธ จุลานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานประจวบคีรีขันธ์ นายกิตติกรณ์ เทพอยู่อำนวย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
นายไพโรจน์ คำทอน ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่มีฝนตกชุกบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำปราณบุรีตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยข้อมูลวันที่ 6 ส.ค.61 มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง 8.4 ล้าน ลบ.ม.ดังนั้นจึงได้เร่งระบายน้ำออกเพื่อรักษาระดับให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม โดยเพิ่มการส่งน้ำตามคลองส่งน้ำสายใหญ่และระบายลงสู่แม่น้ำปราณบุรีรวมวันละประมาณ 9.5 ล้าน ลบ.ม.ส่งผลให้ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างอยู่ที่ 305.5 ล้าน ลบ.ม.จากความจุอ่าง 391 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็นร้อยละ 78 และจะทยอยระบายน้ำออกต่อเนื่องให้อยู่ในระดับกักเก็บที่ร้อยละ 70
ทั้งนี้ ทางโครงการได้มีการเฝ้าระวังติดตามผลกระทบจากการระบายน้ำอย่างใกล้ชิดโดยมีจุดตรวจวัดระดับน้ำจำนวน 7 จุด ได้แก่ ท่าน้ำวัดห้วยแสลงพันธ์ สถานีโรงสูบน้ำ กปภ.สาขาปราณบุรี สะพานธรรมรัชต์ สะพานวัดเขาน้อยล่าง สะพานดำ สะพานท่าลาดกระดาน สถานีตำรวจน้ำปากน้ำปราณ และมีจุดแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงประสบอุทกภัยจำนวน 4 จุด ได้แก่ ชุมชนบ้านเขาน้อยล่าง ชุมชนบ้านท่าลาดกระดาน ชุมชนบ้านปลายน้ำ และชุมชนบริเวณสี่แยกปราณบุรี ซึ่งผลจากการระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำปราณบุรี พบว่าทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปราณบุรีสูงขึ้นเฉลี่ยประมาณกว่า 1 เมตร แต่ยังต่ำกว่าแนวตลิ่ง และไม่มีผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริม 2 ฝั่งแม่น้ำปราณบุรีแต่อย่างใด
ด้าน นายยงยุทธ จุลานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ในส่วนของอ่างเก็บน้ำยางชุม ซึ่งมีขนาดกักเก็บรองลงมาจากอ่างเก็บน้ำปราณบุรี ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 33.8 ล้าน ลบ.ม.จากความจุอ่าง 41.1 ล้าน ลบ.ม.หรือคิดเป็นร้อยละ 81 ซึ่งขณะนี้ได้มีการระบายน้ำออกจากอ่างอยู่ที่วันละ 5.8 แสน ลบ.ม.และจะติดตั้งกาลักน้ำให้สามารถเพิ่มการระบายน้ำได้อีก 1.4 แสน ลบ.ม.รวม 7.2 แสน ลบ.ม.ขณะที่มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง วันละ 3.8 แสน ลบ.ม.ซึ่งผลจากการระบายน้ำพบว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง
ขณะที่ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการเดินทางมาตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำปราณบุรีทำให้ทราบว่าได้มีการบริหารจัดการน้ำที่ดีจึงไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เฝ้าระวังสภาวะลมมรสุมในระยะนี้ที่อาจจะทำให้ปริมาณน้ำในอ่างปราณบุรีรวมถึงอ่างเก็บน้ำต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น และให้ศูนย์ ปภ.เขต 4 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมอุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัยให้พร้อมสำหรับการช่วยเหลือประชาชน โดยให้นายอำเภอประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ติดตามผลกระทบที่่เกิดขึ้นกับประชาชนในหมู่บ้านชุมชนของตนเอง และให้แจ้งประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์น้ำให้ประชาชนทราบเป็นระยะ
////////
ไม่มีความคิดเห็น