ตำรวจภาค 5 จับสองผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าคนตายแค้นหักหลังเบี้ยวเงินยาเสพติด

อำเภอฝาง  จังหวัดเชียงใหม่
นายสำราญ  แสงสงค์  ข่าว

11 ตุลาคม  2561 เวลา 1100 น.
ตำรวจภาค 5 ตำรวจภูธรเชียงใหม่ ตำรวจ สภ.นาหวาย จับกุมผู้ต้องหา “ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ,ร่วมกันฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันชิงทรัพย์”ปมหักหลังเรื่องยาเสพติด  รักษาการณ์ ผู้บัญชาการภาค 5 สั่งติดตามจับกุกวดล้างให้สิ้นซาก   เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2561 เวลา 11.00 น.โดยการอำนวยการของ  พล.ต.ต.มนตรี  สัมบุณณานนท์ รรท.ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.ภาณุเดช  บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร รรท.ผบก.สส.ภ.5 , พ.ต.อ.พิเชษฐ์    จีระนันตสิน รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ , พ.ต.อ.ชินวิช วิชัยธนพัตน์ รอง ผบก.สส.ภ.ภ.5 , พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 , พ.ต.อ.วรพงษ์  คำลือ รอง ผบก.สส.ภ.5 , พ.ต.อ.ธีรพล  อินทรลิบ รอง ผบก.ฯ ,พ.ต.อ.ทรงกริช   ออนตะไคร้ รอง ผบก.ฯ, พ.ต.อ.ปิยะพันธ์  ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ฯ , พ.ต.อ.ศิริวัฒน์  บุญประสิทธิ์ รอง ผบก.ฯ , พ.ต.อ.รัฐพล น้อยช่างคิด ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 , พ.ต.อ.ปกรณ์   ผาทอง ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ , พ.ต.อ.ฤกษ์ชัย  แสงสว่าง  ผกก.สภ.นาหวาย , พ.ต.ท.จิรัฎฐ์  โรจน์บวรวิทยา รอง ผกก.สส.1 , พ.ต.ท.นิติพันธ์ สังขกร รอง ผกก.สส.1 ,พ.ต.ท.สุระพล  เทพเสน  รอง ผกก.สส.สภ.นาหวาย ,พ.ต.ท.วรภาส  ศรีอ่อน รอง ผกก.ป.สภ.นาหวาย ,พ.ต.ท.สมบัติ  อินถอด รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.นาหวายฯ พร้อมเจ้าพนักงานตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่  อันมี   พ.ต.ท.ไกรศรี  จุฬพรรค์  รอง ผกก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ , พ.ต.ท.ธนัญณ์ชัย  วงค์สุริยะไท  สว.กก.สส.ฯ , พ.ต.ต.อาคม ศรีฟอง ,ร.ต.อ.เกียรติศักดิ์  อุ่นเมืองอินทร์ , ร.ต.อ.ศรัณย์  ศรีพักตร์ , ร.ต.อ.ธรรศพงศ์ ธนันอมรพงศ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหวาย ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาคือ นายสุทัศน์    จันทวงค์  บ้านเลขที่ 37  หมู่ที่ 1  ต.เมืองงาย  อ.เชียงดาว   จว.เชียงใหม่ และ นายฉลอง     สมเพชร  บ้านเลขที่ 25/13 หมู่ที่ 3 ต.พยอม  อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยของกลาง   คือ รถยนต์กระบะ แค็บ ยี่ห้อฟอร์ด สีเทา คันหมายเลขทะเบียน ผค – 6735 เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน ,รถยนต์กระบะ แค็บ ยี่ห้อฟอร์ด สีเทา คันหมายเลขทะเบียน บร - 8435 พระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 คัน,โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย สีดำ จำนวน 1 เครื่อง,โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อเอไอเอส รุ่นลาวา  สีดำ จำนวน 1 เครื่อง โดยกล่าวหา “ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ,ร่วมกันฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันชิงทรัพย์” ทั้งนี้ก่อนการจับกุมเมื่อวันที่  26 กันยายน 2561 เวลาประมาณ 15.00-17.30  น.   ได้เกิดเหตุคดีฆาตกรรมในท้องที่  สภ.นาหวาย  อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตชื่อนายอาเล  สีวัวะ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247  หมู่ที่ 11  ต.เมืองนะ  อ.เชียงดาว   จว.เชียงใหม่ จากการสืบสวนสอบสวนคดีในเบื้องต้นไม่ทราบตัวผู้กระทำผิด  เหตุเกิดที่บริเวณ เชิงเขาด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของหมู่บ้านป่าบงงาม หมู่ที่  11  ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว  จว.เชียงใหม่  ตำรวจชุดสืบสวนของ กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ ร่วมกันชุดสืบสวนของ สภ.นาหวาย ลงพื้นที่ทำการสืบสวนหาข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายผู้กระทำผิดในคดีนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ต้องสงสัย 1 คัน ครถยนต์กระบะ สเปคแค็บ ยี่ห้อฟอร์ด สีเทาที่มีการปิดอำพรางแผ่นป้ายทะเบียนในลักษณะที่ผู้ใช้รถยานพาหนะคันนี้เจตนาไม่ให้เห็นหมายเลขทะเบียน และจากการตรวจสอบต่อมาทำให้ทราบว่ารถคันดังกล่าวหมายเลขทะเบียนคือ ผค – 6735 เชียงใหม่  มี นางศศิธร  จันทวงค์ เป็นเจ้าของผู้ถือกรรมสิทธิ์และจากการสืบสวนในเชิงลึกได้ข้อมูลว่าโดยปกติแล้วรถคันดังกล่าวจะมีนายสุทัศน์  จันทวงค์ สามีของนางศศิธรฯ เป็นผู้ครอบครองและใช้รถประจำซึ่งเมื่อตรวจสอบข้อมูลประวัติของนายสุทัศน์ฯ ก็พบว่าเคยต้องหาคดีอาญาในความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ พ้นโทษออกมาเมื่อปี 2556 ซึ่งเป็นบุคคลในกลุ่มเฝ้าระวังผู้เกี่ยวข้องยาเสพติด จึงได้เฝ้าสืบสวนติดตามพฤติการณ์ของนายสุทัศน์  จันทวงค์  เรื่อยมาได้พบว่าปกติไม่ประกอบอาชีพใดๆ และหลังเกิดเหตุมักเดินทางเข้ามาในเมืองเชียงใหม่ บ่อยและหากอยู่บ้านมักจะเก็บตัวอยู่ในบ้านและปิดประตูรั้วบ้านคล้องโซ่ล๊อคกุญแจป้องกันบุคคลภายนอกอย่างมีพิรุธ ต่อมาในวันที่ 10 ตุลาคม 2561   เจ้าพนักงานตำรวจได้ทราบข่าวว่านายสุทัศน์ฯ จะเดินทางมาทำธุระที่บ้านป่าแคโยง หมู่ 5 ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จว.เชียงใหม่ จึงได้พากันไปเฝ้าดักรอแล้วได้พบนายสุทัศน์ฯ ขับขี่รถยนต์กระบะ แค็บ ยี่ห้อฟอร์ด สีเทา คันหมายเลขทะเบียน ผค – 6735 เชียงใหม่ ไปตามถนนเลียบรางรถไฟขาเข้าเมืองเชียงใหม่ แล้วจอดไปจอดริมถนนเรียบรางรถไฟในเขตพื้นที่หมู่บ้านป่าแคโยง ก็จึงได้พากันเข้าแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจสืบสวน กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมนั้นได้แจ้งรายละเอียดพฤติการณ์แห่งคดีที่เกิดขึ้นให้นายสุทัศน์ฯทราบ พร้อมทั้งแสดงพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบข้อพิรุธเกี่ยวกับรถยนต์พาหนะของนายสุทัศน์ฯ และแจ้งว่ามีเหตุอันควรเชื่อว่านายสุทัศน์ฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกระทำผิดในคดีที่สืบสวนอยู่นี้ ซึ่งในที่สุดนายสุทัศน์ฯ ก็ยอมรับว่า ตนเข้าเกี่ยวข้องกระทำผิดในเหตุการณ์เสียชีวิตของนายอาเล  แซ่วัวะ จริง  เจ้าพนักงานตำรวจก็ได้เชิญตัวนายสุทัศน์ฯ มายังที่ทำการ กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ แล้วได้ร่วมกับเจ้าพนักงานชุดสืบสวน สภ.นาหวาย ทำการซักถามรายละเอียด ได้ความตามคำรับสารภาพของนาสุทัศน์ฯ ว่า ก่อนเกิดเหตุคดีกล่าว ตนได้รับการว่าจ้างจากชนเผ่าว้าแดง ประเทศพม่า  และนายอาเล  ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เป็นชนเผ่าลีซอไม่ทราบที่อยู่  โทรศัพท์ติดต่อกับตนให้จัดหาคนไปทำการจับเอาตัวหรืออุ้มนายอาเล  สีวัวะ ผู้ตาย ไปให้กลุ่มพวกชนเผ่าว้าแดงและนายอาเลฯ ในราคาค่าจ้าง 500,000  บาท ตนได้โทรศัพท์ติดต่อเสนองานว่าจ้างดังกล่าวแก่หนานหลองหรือนายฉลอง  สมเพชร ซึ่งเคยต้องโทษจำคุกด้วยกันมา และนายฉลองฯ ตกลงรับงานว่าจ้างดังกล่าว  โดยตนได้นัดหมายและไปรับนายฉลอง  สมเพชร โดยได้ขับขี่รถยนต์กระบะ แค็บ ยี่ห้อฟอร์ด สีเทา คันหมายเลขทะเบียน ผค – 6735 เชียงใหม่ ไปรับนายฉลอง  สมเพชร พร้อมกับนายหิน หรือพงษ์ชัย  เพ็ชรน้อย ที่นายฉลองฯจัดหามาร่วมทำงานดังกล่าว ที่ อ.เมืองเชียงใหม่  เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561   แล้วไปส่งพักอยู่กับชาวเขาเผ่าลีซอลูกน้องนายอาเลฯผู้ว่าจ้างในหมู่บ้านป่าบงงาม ต.เมืองนะฯ  แล้วในวันที่ 26  ก.ย.2561  ในช่วงเย็น ตนได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากนายอาเลฯผู้ว่าจ้างให้รีบไปรับตัวนายฉลองฯ และนายหินฯ ซึ่งตนก็ได้ไปรับตัวบุคคลทั้งสอง แล้วนำมาพักค้าคืนที่บ้านของตน โดยทราบว่านายฉลองฯ นำโทรศัพท์ภรรยาของผู้ตายติดตัวจากที่เกิดเหตุมาด้วย หลังจากนั้นช่วงเช้าวันที่ 27 กันยายน 2561 ก็ได้ขับขี่รถยนต์ ไปส่งนายหินฯ ที่ อ.เวียงป่าเป้า จว.เชียงราย แล้วย้อนกลับมาส่งนายฉลองฯ ที่ตัวเมืองเชียงใหม่ และถูกจับกุมตัวดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าตำรวจชุดจับกุม จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย ทำการขอออกหมายจับต่อศาลฯ และศาลจังหวัดเชียงใหม่ ได้อนุมัติออกหมายจับ นายสุทัศน์    จันทวงค์  ตามหมายจับฯ ที่ 688/2561  ลงวันที่ 10 ต.ค.2561  ,นายฉลอง  สมเพชร ตามหมายจับฯ ที่ 689/2561  ลงวันที่ 10 ต.ค.2561  ,นายพงษชัย  เพ็ชรน้อย ตามหมายจับฯ ที่ 690/2561 ลงวันที่ 10 ต.ค.2561 ในข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย , ร่วมกันฆ่าผู้อื่น , ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันชิงทรัพย์” เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำหมายจับมาแสดงต่อนายสุทัศน์  จันทวงค์  และได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้นายสุทัศน์  จันทวงค์ ซึ่ง นายสุทัศน์ฯ ทราบและเข้าใจตามข้อกล่าวหาดีแล้ว และจากการจับกุมตัวนายสุทัศน์  จันทวงค์ ได้แจ้งข้อมูลต่อเจ้าพนักงานตำรวจว่า ช่วงก่อนหน้าที่เจ้าพนักงานตำรวจจะติดตามมาพบ ตนได้โทรศัพท์ติดต่อนัดหมายกับนายฉลอง หรือหนานหลอง  สมเพชร จะไปพบกันที่บริเวณถนนวงแหวนรอบสาม ใกล้ตู้ยามตำรวจบ้านป่าบง ต.ป่าบง อ.สารภี จว.เชียงใหม่ เพื่อไปพูดคุยและดื่มกินสุรากัน เวลาต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจจึงได้วางแผนให้นายสุทัศน์ฯ โทรศัพท์ติดต่อให้ไปรอที่จุดนัดหมาย  แล้วเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้พากันไปยังจุดนัดหมาย เมื่อไปถึงก็ได้พบนายฉลอง หรือหนานหลอง  สมเพชร จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ พร้อมทั้งได้แจ้งเหตุพฤติการณ์แห่งคดีให้ทราบ อีกทั้งได้แสดงพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ประกอบทั้งคำให้การซัดทอดนายสุทัศน์ฯ ให้นายฉลอง  สมเพชร  ได้ทราบแล้วก็รับว่าได้กระทำผิดในคดีดังกล่าวจริง  ก็ได้เชิญตัวมายังที่ทำการ กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ เพื่อทำการซักถามข้อมูลรายละเอียดในการกระทำผิด แล้วได้แสดงหมายจับฯ แล้วนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาหวายเพื่อดำเนินคดีต่อไปด้านพลตำรวจตรี มนตรี สัมบุณณานนท์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่าในคดีนี้ตนเองได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เร่งดำเนินการสืบสวนจับกุมคนร้ายอย่างเร่งด่วนที่สุดเนื่องจากเป็นคดีอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญ โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทั้งสองคนรับจ้าง จากขบวนการค้ายาเสพติด กลุ่มว้าแดงในประเทศเพื่อนบ้าน  ในราคา 5 แสนบาท ให้มาอุ้มนายอาเล ซึ่งมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเคยถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นบ้าน ยึดทองคำแท่งได้มากกว่า 50 บาท ทั้งที่ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง  ทั้งนี้เชื่อว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด น่าจะมาทวงหนี้ ค่ายาเสพติด หรือเค้นเอาข้อมูลจากผู้ตาย ก่อนจะฆ่าทิ้งโดยพฤติกรรมของ คนร้ายมักจะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นทางคดี แต่เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานเด็ดภาพกลุ่มคนร้ายจากกล้องวงจรปิด ของผู้ตายที่ติดไว้  และยังออกหมายจับ นาย พงษ์ชัย เพ็ชรน้อย รวมทั้งชายอีก 4 คน ที่ร่วมก่อเหตุด้วย  ส่วนผู้ว่าจ้าง ชื่อนายอาเล ชาวว้าแดง  อยู่ในประเทศเพื่อน เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.