เปิดใจชาวบ้านประมงชายฝั่งกระบี่ หลังยึด รื้อถอนทำลาย เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย วอนภาครัฐช่วยจัดโซนพื้นที่ทำกิน ประมงเสนอ 15,000 แต่ไม่รับ
วันที่ 25 ธ.ค.61 เวลา 10.00 น. นายประเพียร จันทร์เจริญ รองนายกเทศบาลตำบลคลองพนพัฒนา พร้อมด้วยผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยัง ที่ท่าเรือบ้านท่ามะพร้าว หมู่ที่ 9 ต.คลองพนพัฒนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ทางจังหวัดได้เข้ามารื้อถอน โป๊ะน้ำตื้นในพื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยให้เหตุผลว่า โป๊ะน้ำตื้นทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำวัยอ่อน และบดบังทัศนียภาพความสวยงามของทะเล ซึ่งทำให้ชาวบ้านที่ทำอาชีพประมงดังกล่าว กว่า 200 ราย เดือดร้อนอย่างหนัก ซึ่งอาชีพโป๊ะน้ำตื้นนั้นเป็นวิถีชุมชนของชาวประมงพื้นบ้าน ของหมู่ที่ 9 บ้านท่ามะพร้าว และหมู่ที่ 5 บ้านมู่สา ต.คลองพน และหมู่บ้านอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ในตำบลคลองพน นั้นทำอาชีพนี้เป็นอาชีพหลัก เพราะมีรายได้ส่วนใหญ่อยู่แค่นี้ และชาวบ้านเหล่านี้ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง ซึ่งถ้าพวกเขาหยุดทำงานสักวันสองวันก็จะมีปัญหาสำหรับการศึกษาของบุตรหลานทันที และชาวบ้านบางคนที่ประกอบอาชีพนี้บอกว่า ตนเองไม่มีที่ดินทำกิน ทำแต่อาชีพประมงโดยการทำโป๊ะน้ำตื้นนี้มาเป็น 20-30 ปีแล้ว รายได้วันหนึ่งประมาณ 300 – 400 บาท ซึ่งเพียงพอต่อการใช้จ่ายและให้ลูกหลานได้ไปโรงเรียน ส่วนถ้าหากมีการคำสั่งให้หยุด หรือ รื้อถอน การทำโป๊ะน้ำตื้น ก็อยากให้ทางภาครัฐช่วยเหลือ ส่งเสริมงานด้านอื่นๆหรือที่ดินทำกินเพื่อให้พวกเขาได้มีรายได้เพื่อจุนเจือครอบครัว
นายหิรัญ สั่นสะท้าน ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.คลองพนพัฒนา กล่าวว่า การทำโป๊ะน้ำตื้นนั้นไม่ทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำวัยอ่อน และบดบังทัศนียภาพความสวยงามของทะเลเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะชาวบ้านประกอบอาชีพนี้มาตั้งแต่สมัยบรรพระบุรุษ แต่ในขณะนี้ทางจังหวัดได้เข้ารื้อถอน และทำลาย ซึ่งตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อนหนักมาก เพราะโดนรื้อถอนและยึดไปแล้วกว่า 15 รายแล้ว ซึ่งอุปกรณ์ที่โดนยึดทางชาวบ้านก็ได้ไปกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อมาลงทุน แต่กลับถูกยึดและรื้อถอนไป ซึ่งทำให้ชาวบ้านไม่สามารถนำเงิน ที่กู้ยืมมาไปผ่อนชำระได้ เนื่องจากไม่มีรายได้เลยในตอนนี้ ส่วนทางกรมประมงได้มาเสนอให้กับชาวบ้าน รายละ 15,000 บาท เพื่อให้ยกเลิกอาชีพทำโป๊ะน้ำตื้น แต่ชาวบ้านไม่รับเงินก้อนนั้นแม้แต่คนเดียว เพราะว่าเงินแค่ 15,000 บาท เอามาใช้ไม่ถึง 1 เดือนก็หมดแล้ว แต่ถ้าเขามีรายได้วันละ3-4 ร้อยบาท เขาสามารถเลี้ยงครอบครัว แล้วให้ลูกหลานไปเรียนหนังสือได้ ซึ่งบางคนที่ทำอาชีพนี้ก็ยกเลิกและสามารถหางานเสริมได้ แต่สำหรับบางคนก็ไม่สามารถงานเสริมได้เหมือนกัน
นายบูลย์ ละงู อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.5 ต.คลองพนพัฒนา ชาวประมงโป๊ะน้ำตื้น กล่าวว่า ลำบากอย่างหนักที่ดินทำกินสวนยาง สวนปาล์ม ก็ไม่มี มีอาชีพเดียวคือทำโป๊ะน้ำตื้น พอได้มีรายได้เล็กๆน้อยๆมาจุนเจือครอบครัว แต่กลับถูกสั่งรื้อถอนและยึดอุปกรณ์ ซึ่งอุปกรณ์ที่ถูกยึดก็ต้องไปกู้เงินมาเพื่อลงทุนและยังเป็นหนี้เป็นสิน และก็ไม่รู้จะเอาเงินจากไหนไปคืนเขาเพราะไม่มีรายได้เลย และบ้านที่อยู่อาศัยก็ชำรุดทรุดโทรม และต้องเลี้ยงดูลูกหลานถึง 8 คน โดยได้ไปเรียนหนังสือบ้าง ไม่ได้ไปบ้างเพราะไม่มีเงินเลย จึงขอวอนทางรัฐช่วยเหลือในการหาอาชีพเสริมหรือที่ดินทำกิน เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว และให้ลูกหลานได้เรียนหนังสือ
อย่างไรก็ตาม ทางชาวบ้านที่ทำอาชีพหลักและอาชีพเดียวคือโป๊ะน้ำตื้น กว่า 200 ราย ขอวิงวอนจากทางรัฐในแนวเดียวกันว่า อยากจะทำอาชีพนี้ต่อ และอยากให้ทางรัฐ แบ่งโซน หรือขอบเขต ข้อจำกัด และข้อห้ามต่างๆ ในการทำอาชีพนี้ ให้กับพวกเขา เพราะถ้าหากว่าพวกเขาไม่ทำอาชีพนี้แล้วไม่รู้ว่าจะหารายได้เพื่อมาจุนเจือครอบครัวอย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น