☆ข่าวแพร่☆หาปลาในแม่น้ำยมใต้สะพานบ้านวังดิน อำเภอสองจมน้ำหายไปต่อหน้าเพื่อน☆
☆เมื่อเวลา๑๕.๕๖น.ของวันที่๒๕มกราคม พ.ศ.๒๕๖๒ ผู้สื่อข่าวรอบรั้วภูธรทีวี๑๓สยามไทยได้รับแจ้งประสานงานจากสมาคมกู้ภัยสองรวมใจว่าได้มีคนจมน้ำในกำลังหาปลาในลำน้ำยมใต้สะพานข้ามแม่น้ำยมเขตบ้านวังดินหมู่ที่๙ตำบลบ้านกลางอำเภอสอง จังหวัดแพร่ จึงได้ไปที่เกิดเหตุพบร.ต.อ.สมคิด คำเอื้อ รอง สว.(สอบสวน)
สภ.สอง จว.แพร่ พร้อมชุดทีมค้นหาของสมาคมกู้ภัยสองรวมใจนำโดยนายอรรถชัย ใจสงัด นายกสมาคมกู้ภัยสองรวมใจนำเจ้าที่ชุดปฎิบัติการค้นหาผู้สูญหายใต้น้ำจำนวน๑๕นาย และมูลนิธิธรรมาภิรักษ์นำโดยนายอรรถพล คำมีสว่าง ผู้อำนวยการของมูลนิธินำเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิมาสมทบอีก๔นายเตียมความพร้อมในการค้นหาโดยใช้ชุดประดาดำน้ำของสมาคมกู้ภัยสองรวมใจ๓นายค้นหาตั้งแต่เวลา๑๖.๔๕น.เป็นลำดับแรกจนถึงเวลา๑๘.๐๐น.ก็ไม่สามารถพบคนจมน้ำจึงได้กลับขึ้นฝั่งและประสานไปยังมูลนิธิพรานพิทักษ์อำเภอหนองม่วงไข่มาช่วยค้นหาเพราะน้ำในลำน้ำยมในช่วงบริเวณนั้นมีความกว้างประมาณ๕๐เมตรมีความลึกประมาณ๒ถึง๓เมตรจึงทำให้การค้นหาเป็นไปได้ยากลำบากมากจนกระทั้งชุดปฎิบัติการค้นหาผู้สูญหายใต้น้ำของพรานพิทักษ์มาถึงจึงได้ร่วมวางแผนและนำทุ่นไปวางไว้ตรงจุดที่คนจมน้ำและร่วมปูพรมค้นหาพร้อมกัน๗นายในระยะ๗เมตรใช้เวลาในการค้นหาตั้งแต่เวลา๑๙.๔๕น.ค้นหาผู้จมน้ำประมาณ๑ชั่วโมงจนถึงเวลา๒๐.๔๕นาทีจึงได้พบศพผู้จมน้ำจึงได้นำตัวขึ้นมาในสภาพศพนุ่งเสื้อยืดสีแดง สวมกางขาสั้นสีเขียวมือทั้ง๒ข้างกำเกร็งแบบชูมือขึ้นมาเหนืออกมือซ้ายถือกระซังปลาในกระซังมีปลาประมาณ๓๐ตัวและสวมรองเท้าติดอยู่ข้างซ้ายข้างเดียวจึงได้นำร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นจากน้ำและประสานแพทย์ของโรงพยาบาลสองแต่ทางแพทย์ของโรงพยาบาลสองให้นำร่างคนตายมาที่รพ.สองเพื่อจะได้ทำการเอ็กซเรยเพื่อหาสาเหตุเบื้องต้นจึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตนำส่งโรงพยาบาลสองให้แพทย์ทำการชันสูจโดยการเอ็กซเรยผลไม่พบบาดแผลการถูกทำร้ายแต่อย่างใดศพอยู่ในสภาพได้สำลักน้ำและเสียชีวิตมาประมาณ๕ชั่วโมงจึงได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการมอบศพให้กับญาตินำไปทำพิธีตามธรรมเนียม ทราบชื่อผู้ตาย คือนายดวงดี อิ่นแก้วอายุ ๖๐ปีอยู่บ้านเลขที่๓๑๙ หมู่ที่๖ตำบลบ้านหนุน อำเภอสอง จังหวัดแพร่ เป็นช่างไม้แกะสลักฝีมือดีคนหนึ่งในบ้านลองลือบุญสอบถามภรรยาคือนางกมลวรรณ อิ่นแก้ว อายุ๖๔ปีซึ่งเป็นภรรยาอยู่บ้านหลังเดียวกับผู้ตายเล่าว่าในช่วงเช้าของวันนี้ได้มีนายแอ็ด จันทรางกูล อายุ๖๐ปีเป็นผช.ผญบ.บ้านกลางอยู่บ้านเลขที่๔๙ม.๔ ตำบลบ้านกลาง อำเภอสองจังหวัดแพร่ได้มาชวนกันมาหาปลาในลำน้ำยมและจะหาปลาตามปกติเหมือนที่ผ่านมาปกติจะมากันประมาณ๕คนแต่ครั้งนี้มากันแค่๒คนสอมถามนายแอ็ด เล่าว่าขณะที่ตนเองกำลังชักลากตาข่ายอยู่ฝั่งตรงข้ามกับนายดวงดี อิ่นแก้ว ก็ได้เห็นนายดวงดีเดินเลาะตามลำน้ำอีกฝั่งหนึ่งซึ่งในบริเวณนั้นจะมีน้ำลึกพอประมาณซึ่งตนเองได้ข้ามมาก่อนและตะโกนบอกให้นายดวงดีไม่ต้องข้ามมาแต่ขณะนั้นตนเองได้ตะโกนไปแล้วนายดวงดีไม่ยอมฟังจึงได้เดินออกมากลางลำน้ำยมจึงได้เห็นจมน้ำไปต่อหน้าต่อตาจึงได้ว่ายน้ำเข้าไปเพื่อทำการช่วยเหลือแต่นายดวงดีได้จมน้ำไม่ยอมโผล่ขึ้นมาอีกเลยจึงได้เรียกชาวบ้านแถวนั้นมาช่วยและติดต่อไปยัง๑๖๖๙และนั่งรอชุดช่วยเหลือวันนี้มีนายกิติพัฒน์ กะวัง นายอำเภอสอง นายลิขิต จันทร์ยอด กำนันตำบลบ้านกลาง นางสายหยุด อ่องคำ นายกอบต.บ้านกลางพร้อมชาวบ้านได้มาให้กำลังใจทีมค้นหาอย่างไกล้ชิดโดยไม่ยอมกลับจนทีมค้นหาผู้สูญหายใต้น้ำพบศพ จากประสปการณ์ในครั้งนี้ที่ทางสมาคมกู้ภัยสองรวมใจ มูลนิธิธรรมาภิรักษ์ มูลนิธิพรานพิทักษ์ ได้ปฎิบัติการค้นหาผู้สูญหายใต้น้ำได้ประสพผลสำเร็จได้เพราะได้จบหลักสูตรการฝึกอบรมการกู้ภัยทางน้ำหลักสูตรขั้นต้น(padi 0pan water)เมื่อวันที่๒๔มกราคม พ.ศ.๒๕๖๒ที่ศูนยฝึกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ที่โดย อาจารย์ ชัยณัฐ วันเชียงครูสอนดำน้ำสากลสถาบันดำน้ำpadi(พาดี้)โรงเรียนสอนดำน้ำ เอซีไฟด์วิ่ง จังหวัดชลบุรี เป็นทีมวิทยากรผู้ฝึกสอนซึ่งผ่านมา๑วันเองในวันนี้ถือเป็นการปฎิบัติงานจริงที่ท้าทายความสำเร็จของทีมค้นหาจนสำเร็จ(ลางบอกเหตุในการเสียชีวิตในครั้งนี้ภรรยาเล่าว่าก่อนประมาณ๓วันนายดวงดีได้เล่าให้ภรรยาว่าตนเองได้ไปเกิดใหม่แล้วกับหลานสาวที่คลอดลูกอยู่ที่รพ.สองว่าตนเองพ้นทุกข์แล้วไม่เชื่อขอให้ไปดูหน้าได้และจะได้นำสิ่งของไปเเลกเปลี่ยนใ๗วันตามความเชื่อถือของชาวบ้านแต่ยังไม่ถึง๗วันก็มาเสียชีวิตเสียก่อนและวันที่เสียชีวิตปกติที่นายดวงดีจะออกบ้านไปไหนมักจะบอกตนเองทุกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่ยอมพูดและไม่ยอมบอกไม่มองหน้าตนเองเลยบิดมอไซค์ออกบ้านอย่างเร่งรีบจึงทราบจากเพื่อนว่าสามีได้มาจมน้ำที่ลำน้ำยมในครั้งนี้จนได้
ณัฐปคัลภ์ ศรีคำภา ผู้สื่อข่าวรอบรั้วภูธรทีวี๑๓สยามไทยรายงานจากจังหวัดแพร่
ไม่มีความคิดเห็น