ครูแม่ลูกร่ำไห้ถูกผอ.ร.ร.สร้างกำแพงปิดทางเข้าบ้าน
จ. อำนาจเจริญ 16 กพ.62
นายคู่ บุญมาศ 087-2557999 ข่าว / ภาพ
ตระกูลครูร่ำไห้ที่ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนจะสร้างรั้วกำแพงปิดทางเข้าบ้าน ที่เคยใช้เทียวเข้าออกมาแต่รุ่นตาที่เคยเป็นครูใหญ่ที่ก่อตั้งเคยอาศัยมานานนับ 100 ปี
เมื่อวันที่ 16 กพ. 62 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์นางมยุรี ลาพะมาตย์ อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 12 ม. 3 ถูกนายทวีสุข พรรณเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบุ่งเขียว ใช้นักการมาก่อสร้างรั้วกำแพงปิดกั้นทางเข้าหน้าบ้านของทีปลูกติดกับแนวเขตโรงเรียนที่เคยอาศัยและใช้เส้นทางผ่านโรงเรียนมาแล้วนานนับ 100 ปีสร้างความเดือดร้อนแก่ครอบครัวตน เป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าวพบนางมยุรี น.ส.ปัทจนา แสนสุข อายุ 43 ปี ครูอัตราจ้าง ร.ร.บ้านบุ่งเขียวและบุตรสาวอีก 3 คนครูชำนาญการพิเศษ 1 คน ครูอัตราจ้าง โรงเรียนบ้านบุ่งเขียว 2 คนนั่งชูกรอบภาพนายสำลี อินทร์สด ตาอดีตครูใหญ่คนแรก นางเขี่ยม อินทร์สด ยายครูน้อย โดยนางมยุรีเล่าด้วยนำตาว่าเดินโรงเรียนบ้านบุ่งเขียวตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2480 พ.ศ. 2491 นายสำลี อินทร์สด ผู้เป็นตา ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งครูใหญ่ ได้ชักชวนชาวบ้านปลูกเป็นอาคารเรียนและอาคารเอนกประสงค์ขึ้นบนพื้นที่ 25 ไร่ เปิดการเรียนการสอน ปี 2494 ตาได้ปลูกบ้านบนที่ดินติดกับแนวเขตโรงเรียนมาตั้งแต่ปี 2494 เนื่องจากต้องการดูแลโรงเรียนไปในตัว ตั้งแต่นั้นมามีลูกหลานที่ได้เรียนหนังสือเมื่อจบออกมาก็ให้มาบรรจุหรือย้ายมาสอนที่บ้านดังนั้นครอบครัวจึงมีความผูกพันธ์กับโรงเรียนเหมือนเป็นหนึ่งของชีวิต แต่เมื่อต้นปีนายทวีสุข พรรณเจริญ ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนายการโรงเรียนไดมาแจ้งว่าทางโรงเรียนมีความจำเป็นที่จะก่อสร้างรั้วแต่จะเปิดให้มีทางเข้าออกโรงเรียนและบ้านโดยปล่อยให้เป็นประตูเลื่อนกว้าง 6 เมตรแต่จู่ๆทางโรงเรียนได้สั่งนักการมาตั้งเสาเทคานกั้นทางเข้าออกบ้านโดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของ ผอ.โรงเรียน
น.ส.ปัทจนา แสนสุข ครูอัตราจ้างร.ร. บ้านบุ่งเขียว ลูกสาวของนางมยุรี ร่ำไห้ด้วยน้ำตาว่าตนเสียใจที่ถูกผอ.โรงเรียนสั่งปิดกั้นทางเข้าบ้านที่เคยเข้าออกมาตั้งแต่เกิดถึงแม้ว่าจะขอความเมตราจาก ผอ.โรงเรียนแต่ไม่ได้รับความเห็นใจซ้ำยังถูกข่มขู่ว่าหากไม่ยินยอมจะยึดที่ดินที่อาศัยอยู่หากทางบ้านตนไม่ยินยอมจะเจอกันที่ศาล ทำไมไม่นำพรมวิหารมาปฏิบัติ ตนไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่นำภาพของตายายที่เคยเป็นครูใหญ่ขออธิฐานให้ช่วยดลบันดาลให้ ผ.อ.และผู้เกี่ยวข้องใจอ่อนหาพวกข้าพเจ้าได้เข้าออกบ้านตามปกติ
นายธนัญชัย สายสุด ผู้อำนวยการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่าปัญหาดังกล่าวตนได้ออกไปตรวจสอบแล้วตนเพียงแต่ให้ทาง ผอ.โรงเรียนชลอในการก่อสร้างไว้ก่อน จนกว่าจะหาทางออกที่ดีที่สุดแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น และตนได้มอบให้คณะกรรมการเป็นผู้ตัดสินใจ
นายคู่ บุญมาศ 087-2557999 ข่าว / ภาพ
ตระกูลครูร่ำไห้ที่ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนจะสร้างรั้วกำแพงปิดทางเข้าบ้าน ที่เคยใช้เทียวเข้าออกมาแต่รุ่นตาที่เคยเป็นครูใหญ่ที่ก่อตั้งเคยอาศัยมานานนับ 100 ปี
เมื่อวันที่ 16 กพ. 62 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์นางมยุรี ลาพะมาตย์ อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 12 ม. 3 ถูกนายทวีสุข พรรณเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบุ่งเขียว ใช้นักการมาก่อสร้างรั้วกำแพงปิดกั้นทางเข้าหน้าบ้านของทีปลูกติดกับแนวเขตโรงเรียนที่เคยอาศัยและใช้เส้นทางผ่านโรงเรียนมาแล้วนานนับ 100 ปีสร้างความเดือดร้อนแก่ครอบครัวตน เป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าวพบนางมยุรี น.ส.ปัทจนา แสนสุข อายุ 43 ปี ครูอัตราจ้าง ร.ร.บ้านบุ่งเขียวและบุตรสาวอีก 3 คนครูชำนาญการพิเศษ 1 คน ครูอัตราจ้าง โรงเรียนบ้านบุ่งเขียว 2 คนนั่งชูกรอบภาพนายสำลี อินทร์สด ตาอดีตครูใหญ่คนแรก นางเขี่ยม อินทร์สด ยายครูน้อย โดยนางมยุรีเล่าด้วยนำตาว่าเดินโรงเรียนบ้านบุ่งเขียวตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2480 พ.ศ. 2491 นายสำลี อินทร์สด ผู้เป็นตา ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งครูใหญ่ ได้ชักชวนชาวบ้านปลูกเป็นอาคารเรียนและอาคารเอนกประสงค์ขึ้นบนพื้นที่ 25 ไร่ เปิดการเรียนการสอน ปี 2494 ตาได้ปลูกบ้านบนที่ดินติดกับแนวเขตโรงเรียนมาตั้งแต่ปี 2494 เนื่องจากต้องการดูแลโรงเรียนไปในตัว ตั้งแต่นั้นมามีลูกหลานที่ได้เรียนหนังสือเมื่อจบออกมาก็ให้มาบรรจุหรือย้ายมาสอนที่บ้านดังนั้นครอบครัวจึงมีความผูกพันธ์กับโรงเรียนเหมือนเป็นหนึ่งของชีวิต แต่เมื่อต้นปีนายทวีสุข พรรณเจริญ ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผู้อำนายการโรงเรียนไดมาแจ้งว่าทางโรงเรียนมีความจำเป็นที่จะก่อสร้างรั้วแต่จะเปิดให้มีทางเข้าออกโรงเรียนและบ้านโดยปล่อยให้เป็นประตูเลื่อนกว้าง 6 เมตรแต่จู่ๆทางโรงเรียนได้สั่งนักการมาตั้งเสาเทคานกั้นทางเข้าออกบ้านโดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของ ผอ.โรงเรียน
น.ส.ปัทจนา แสนสุข ครูอัตราจ้างร.ร. บ้านบุ่งเขียว ลูกสาวของนางมยุรี ร่ำไห้ด้วยน้ำตาว่าตนเสียใจที่ถูกผอ.โรงเรียนสั่งปิดกั้นทางเข้าบ้านที่เคยเข้าออกมาตั้งแต่เกิดถึงแม้ว่าจะขอความเมตราจาก ผอ.โรงเรียนแต่ไม่ได้รับความเห็นใจซ้ำยังถูกข่มขู่ว่าหากไม่ยินยอมจะยึดที่ดินที่อาศัยอยู่หากทางบ้านตนไม่ยินยอมจะเจอกันที่ศาล ทำไมไม่นำพรมวิหารมาปฏิบัติ ตนไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่นำภาพของตายายที่เคยเป็นครูใหญ่ขออธิฐานให้ช่วยดลบันดาลให้ ผ.อ.และผู้เกี่ยวข้องใจอ่อนหาพวกข้าพเจ้าได้เข้าออกบ้านตามปกติ
นายธนัญชัย สายสุด ผู้อำนวยการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่าปัญหาดังกล่าวตนได้ออกไปตรวจสอบแล้วตนเพียงแต่ให้ทาง ผอ.โรงเรียนชลอในการก่อสร้างไว้ก่อน จนกว่าจะหาทางออกที่ดีที่สุดแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น และตนได้มอบให้คณะกรรมการเป็นผู้ตัดสินใจ
ไม่มีความคิดเห็น