ผอ.ร.ร.แจงปัดการสร้างรั้วปิดกั้นทางออกบ้านครูเป็นเรื่องกรรมการ

จ. อำนาจเจริญ 19/2/62
นายคู่        บุญมาศ    087-2557999  ข่าว  /  ภาพ

      ผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะกรรมการการศึกษาต่างปัดความรับผิดชอบกันนัว แถมยังงัดไม้เด็ดหากครูเจ้าของบ้านไม่ยอมขู่จะยึดที่บ้านอีก ครูถึงกับลงทุนกราบเท้าขอความเห็นใจ
      กรณีที่นายทวีสุข   พรรณเจริญ  ผอ.โรงเรียนบ้านบุ่งเขียว อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ สพป.อำนาจเจริญ ที่จะก่อสร้างกำแพงรั้วกั้นปิดทางเข้าออกที่ติดโรงเรียนที่ใช้มานานแต่รุ่นตา จนครูแม่ลูกร้องร่ำให้วอนขอความเมตราแต่ไม่ได้รับการเห็นใจจาก ผอ.ตามเสนอข่าวไปแล้วนั้น
          เมื่อวันที่ 19 กพ. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบนายทวีสุข  พรรณเจริญ ผอ.ที่ร.ร.บ้านบุ่งเขียว โดยนายทวีได้มีหนังสือชี้แจงว่าสาเหตุที่ตนจะก่อสร้างกำแพงรั้วกั้นทางเข้าออกบ้านครูและอัตราจ้างของโรงเรียนเพื่อเป็นการดูแล พัฒนา ป้องกันนักเรียนในช่วงเวลาราชการ ตลอดจนความปลอดภัยทรัพย์สินของทางราชการ  โดยตนไม่ได้ทำโดยพละการ ซึ่งการสร้างรั้วดังกล่าวเป็นมติของคณะกรรมการการศึกษาโรงเรียน ทำไมเมื่อมีมติและข้อตกลงร่วมกันแล้วทำไมจึงต้องมาฝืนมติและสร้างข่าวทำให้โรงเรียนและชุมชนเสื่อมเสียชื่อเสียง  หากคณะกรรมการจะอนุโลมเปิดทางเข้าออกโดยใช้ประตูเหล็กเปิดเข้าออก ก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการมีความเห็นอย่างไรตนก็พร้อมปฏิบัติตาม นายทวี ยังได้กล่าวทิ้งท้ยว่าผมเป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับเงินเดือภาษีประชาชน ต้องยึดหลักความถูกต้อง ยุติธรรมและรักษาผลประโยชน์ของทางราชการและส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เราเป็นครูเป็นพ่อพิมพ์ของชาติ เป็นเบ้าหลอมเด็กและเยาวชน ต้องแยกแยะระหว่างประโยชน์ส่วนรวม ออกจากประโยชน์ส่วนตนให้ได้ เมื่อไรเราเห็นประโยชน์ส่วนตนมาก่อนส่วนรวม เมื่อนั้นสังคมก็วุ่นวาย  นายทวีกล่าว
      ด้าน นายตำรา  ฑีฆะ  ประธานคณะกรรมการการศึกษาโรงเรียนบ้านบุ่งเขียว ข้าราชการบำนาญและอดีตครูโรงเรียนบ้านบุ่งเขียว กล่าวว่าตนเป็นประธานคณะกรรมการก็ไม่ได้พูดอะไรการจะปิดหรือเปิดขึ้นอยู่กับ  ผอ.โรงเรียนบอกแล้วแต่คณะกรรมการแต่ฐานเป็นประธานจะมีแนวทางออกอย่างไรนายตำราเลี่ยงไปว่าจะให้ตนตัดสินใจไม่ได้เนื่องจากคณะกรรมการมีทั้งหมด 12 คน  และกล่าวอีกว่าหากขืนไม่ยินยอมปฏิบัติตามทางโรงเรียนชาวบ้านอาจจะรื้อเรื่องที่ดินอาศัยปัจจุบันเดิมเป็นที่เป็นที่ดินของโรงเรียน
    ซึ่งส่งผลให้น.ส.จันทร์เพ็ญภักตร์  อินทร์สด  อายุ  49 ปี ลูกสาวคนสุดท้องนายสำลี  อินทร์สด อดีตครูใหญ่ โรงเรียน ถึงกลับยอมครุเข่าแล้วก้มกราบเท้าขอร้องในฐานศิษย์ร้องให้คร่ำครัญขอร้องครูว่าโรงเรียนจะยึด นส.3ก ที่เคยอยู่อาศัยมาตั้งแต่เกิด และได้ยินแต่พ่อเคยบอกว่าพ่อบริจาคที่ดินให้โรงเรียนแต่กับมาได้ยินจากปากครูว่าพ่อหุบที่ดินโรงเรียน ตนก็ไม่เข้าใจ ครอบครัวตนนอกจากจะถูกทางโรงเรียนสร้างรั้วปิดทางเข้าออกแล้วยังจะมาถูกรือค้นเรือ่งที่อยู่อาศัยอีก หากถูกยึดไปแล้วพวกหนูจะไปอยู่ที่ใดน.ส.จันทร์เพ็ญภักตร์กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.