15 ปีแห่งความหวัง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ช่วยเหลือหนุ่มพิการทางสมอง ขณะที่พี่สาวสุดดีใจ หลายหน่วยงานเข้ามาดูแล

15 ปีแห่งความหวัง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ช่วยเหลือหนุ่มพิการทางสมอง ขณะที่พี่สาวสุดดีใจ หลายหน่วยงานเข้ามาดูแล
เมื่อเวลา15.00น. วันที่ 27 ธันวาคม นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง พร้อมด้วยคณะเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ระยอง พยาบาลวิชาชีพ กลุ่มงานจิตเวช รพ.ระยอง เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขจ.ระยอง เทศบาลตำบลสำนักท้อน ตำรวจเดินทางมาที่บ้านเลขที่ 120/8 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง
ให้การช่วยเหลือ น.ส.สุภาศิริ คำวิรัช อายุ 33 ปี พี่สาว ผู้ดูแล นายไพฑูรย์ คำวิรัช อายุ30 ปี ผู้พิการทางสมอง และ สติปัญญาไม่สมประกอบและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ต้องถูกให้อยู่แต่ภายในบ้านมาจนถึงปัจจุบันรวมแล้ว 15 ปี จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมถึงการดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไร น.ส.สุภาศิริ คำวิรัช ได้เปิดเผยว่าตนและน้องชายอาศัยอยู่กับพ่อและแม่ แต่เมื่อพ่อเสียชีวิตลงน้องชายก็มีอาการทางสมองตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ใช้ชีวิตเปลือยกายอยู่แต่ในบ้าน ส่วนแม่ก็ได้เอาบ้านและที่ดินหลังนี้ไปจำนองกับนายทุนเพื่อนำเงินมารักษาน้องชายแต่ก็ไม่สามารถช่วยน้องชายให้หายได้ อีกทั้งเงินที่กู้มาก็หมดไปในการรักษา ไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้ได้ จนกระทั่งแม่ต้องหนีไปอยู่ที่อื่นเนื่องจากกลัวนายทุนมายึดเอาบ้านและที่ดิน ทิ้งให้ตนเองต้องดูแลน้องชายมาจนถึงปัจจุบัน โชคยังดีที่นายทุนให้พักอาศัยอยู่ในบ้านนี้ไปก่อนชั่วคราว แต่ตนเองต้องไปทำงานรับจ้างเป็นพนักงานร้านกาแฟในตัวตลาดอ.บ้านฉางได้ค่าแรงวันละ 300 บาท ได้เงินมาก็นำมาซื้ออาหารดูแลน้องในทุกวัน
น.ส.สุภาศิริ เล่าต่อว่า ในทุกวันตนเองต้องขอลางานเจ้าของร้าน เพื่อนำข้าว อาหารและน้ำ รวมทั้งทำความสะอาดเช็ดอุจจาระ ปัสสาวะให้น้องชายทุกวัน มีบางครั้งที่น้องชายจะมีอารมณ์รุนแรงทำร้ายร่างกายตนเองบ้าง เพราะเกิดจากความโมโหหิว ที่ตนนำข้าวมาส่งให้ช้า แต่ตนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเพราะเข้าใจที่น้องชายเป็นแบบนี้ จนชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงไม่กล้าเข้ามาช่วยเหลือเพราะกลัวว่าจะถูกน้องชายทำร้ายเอา จึงได้แค่เอากุญแจมาล็อคประตูด้านนอกไว้ เนื่องจากเป็นห่วงเกรงว่าน้องชายจะออกมาเดินเผ่นผ้านตกคลองหลังบ้านได้  ทุกวันนี้ตนเองต้องรับภาระเลี้ยงดูน้องชาย ลำพังค่าแรงจากการทำงานก็ไม่เพียงพอที่จะพาน้องชายไปรักษาอาการของโรคนี้ให้หายได้ ที่ผ่านมาได้เข้าขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่นให้ช่วยเหลือเรื่องเบี้ยยังชีพผู้พิการ แต่จนถึงขณะนี้ล่วงเลยมานานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แต่เพียงแจ้งว่ายังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ปัจจุบันตนเองก็ต้องลำบากทำงานไปด้วยดูแลน้องไปด้วย
และจากกรณีดังกล่าว นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง ได้ลงพื้นที่พร้อมคณะ เข้าช่วยเหลือในทันที ในความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมกับกล่าวว่า อันดับแรกให้พี่สาวไปพบแพทย์ ที่โรงพยาบาลระยองก่อนเพื่อทำประวัติให้กับน้องชาย ในการรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ ซึ่งหลังจากนั้นแพทย์จะเข้ามาดำเนินการวินิจฉัย ดูอาการก่อนในเบื้องต้นที่บ้าน เนื่องจาก ผู้ป่วยไม่สามารถเดินทางไปโรงพยาบาลได้
จากอาการทางสมองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คาดว่าที่ผ่านมาผู้ป่วยไม่เคยรับยาและไม่เคยได้รับการรักษา
หลังจากนี้อาการน่าจะดีขึ้น
ในส่วนของเรื่องที่อยู่อาศัยก็จะมี หน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง เข้ามาดูและช่วยเหลือต่อไป
สำหรับ น.ส.สุภาศิริ ฯ ได้กล่าวขอบคุณนายกเหล่ากาชาด และคณะ รวมถึงหน่วยงานที่เข้ามาดูแล
ในความเดือดร้อนของตนและน้องด้วยนัยตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความหวัง ในการที่ทุกท่านที่เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้
ธานนท์ ตรีพลอักษร .0898331042
บรรยายภาพ///1/2/3/4///ภาพถ่ายด้วยตนเอง
คณะเหล่ากาชาดจังหวัดระยองลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ
นางวราภรณ์ ฯ นายกเหล่ากาชาด ยืนกลาง สวมรองเท้าสีขาวล้วน
น.ส.สุภาศิริ พี่สาวผู้ดูแลน้องชาย สวมเสื้อคลุมสีดำ ใส่เสื้อยืดสีเขียว นั่งกลาง เหล่าคณะกาชาดระยอง
  ผู้ป่วยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.