จังหวัดยโสธรจัดงานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก ประจำปี 2561
จังหวัดยโสธรจัดงานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก ประจำปี 2561
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2561 นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก ประจำปี พ.ศ.2561 โดยมีนายนิกร สุกใส ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมรองผู้ว่าราชการ นายกเหล่ากาดชาด และนายอำเภอทุกอำเภอ ข้าราชการ ให้การต้อนรับ
นายนิกร สุกใส ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร กล่าวว่า ความเป็นมาของประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก พอสังเขป เมืองมหาชนะชัย เดิมชื่อ "เมืองหันชัยชำนะ” ตั้งเมืองครั้งแรกเมื่อ 2402 ที่บริเวณฝั่งแม่น้ำชีบ้านเวินชัย เป็นแขวงขึ้นต่อต่อเมืองอุบลราชธานี ต่อมาในปี พ.ศ.2406 รัชกาลที่ 4 ได้โปรดเกล้าแต่งตั้งให้ ท้าวคำพูน สุวรรณกูฎ เป็นเจ้าเมืองและพระราชทานนามว่า "พระเรืองไชยชำนะ” หลังจากนั้น ได้มีการย้ายเมืองมาอยู่ที่บ้าน ฟ้าหยาด และต่อมาประมาณปี พ.ศ.2409 ได้มีการสร้างวัดหอก่อง แล้วได้นิมนต์พระครูสีดา ธรรมกิตติกา จากเมืองอุบลราชธานี มาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ในช่วงเทศกาลมาฆบูชา มีประเพณีท้องถิ่นอย่างหนึ่งที่ยึดถือปฏิบัติติดต่อกันมายาวนาน คือ บุญแห่พวงมาลัย มีการนำข้าวตอก ดอกไม้ ไปถวายเป็นพุทธบูชา ตามพระไตรปิฏกส่วนที่ว่าด้วยพระสุตตันตปิฏก บทปรินิพพานสูตร กล่าวถึงดอกมณฑารพ ซึ่งเป็นดอกไม้ทิพย์บนสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์ ที่มีความสวยงามและมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ เวลาดอกมณฑารพจะบานและร่วงหล่นก็ด้วยเหตุการณ์สำคัญ ๆ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพาน วันจาตุรงคสันนิบาต และทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตร ดอกมณฑารพ ได้ร่วงหล่นโปรยปรายลงมายังพื้นโลกมนุษย์
ครั้งเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จดับขันธุ์ปรินิพพาน ที่เมืองกุฉินารา ดอกมณฑารพก็ล่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของพระพุทธเจ้าเพื่อบูชาพระพุทธองค์ครั้งนั้นเหล่าพระภิกษุผู้ได้ชื่อว่าอรหันต ขีนาสพทั้งหลายด้วย หมู่เหล่าข้าราชบริพารทั้งหลายได้พากันมาถวายสักการะพระบรมศพ อีกทั้งยังได้พากันเก็บดอกมณฑารพที่ร่วงหล่นลงมา เพื่อไปสักการบูชาและรำลึกถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป ดอกมณฑารพ ที่เก็บมาสักการบูชาเริ่มเหี่ยวแห้งและหมดไป เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระปัญญาธิคุณพระกรุณาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ รวมทั้งเหตุการณ์ในวันสำคัญต่าง ๆ จึงได้พากันนำเอาข้าวตอกมาสักการบูชา เพราะถือว่าข้าวเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นของสูง ที่มนุษย์ขาดไม่ได้ การจัดข้าวตอกดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชามีจุดเริ่มต้นเมื่อไหร่นั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ที่อำเภอมหาชนะชัย มีการแห่มาลัยข้าวตอกมานานกว่า 100 ปี โดยจะแห่มาลัยข้าวตอกก่อนวันมาฆบูชา 1 วัน เพื่ออนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป และเพื่อความสมัครสมานสามัคคีและส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับท้องถิ่น
การจัดงานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก ปีนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศการประกวดมาลัยข้าวตอก ประเภท มาลัยสายฝน และมาลัยข้อ จำนวน 2 ถ้วยรางวัล ยังความปลาบปลื้มปิติ และภาคภูมิใจอย่างสุดซึ้งให้กับพี่น้องชาวอำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร
//////// วีรพล บุญเดช ผู้สื่อข่าว รายการข่าวรอบรั้วภูธร TV 13 สยามไทย ช่อง212 psi///รายงาน
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2561 นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก ประจำปี พ.ศ.2561 โดยมีนายนิกร สุกใส ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมรองผู้ว่าราชการ นายกเหล่ากาดชาด และนายอำเภอทุกอำเภอ ข้าราชการ ให้การต้อนรับ
นายนิกร สุกใส ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร กล่าวว่า ความเป็นมาของประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก พอสังเขป เมืองมหาชนะชัย เดิมชื่อ "เมืองหันชัยชำนะ” ตั้งเมืองครั้งแรกเมื่อ 2402 ที่บริเวณฝั่งแม่น้ำชีบ้านเวินชัย เป็นแขวงขึ้นต่อต่อเมืองอุบลราชธานี ต่อมาในปี พ.ศ.2406 รัชกาลที่ 4 ได้โปรดเกล้าแต่งตั้งให้ ท้าวคำพูน สุวรรณกูฎ เป็นเจ้าเมืองและพระราชทานนามว่า "พระเรืองไชยชำนะ” หลังจากนั้น ได้มีการย้ายเมืองมาอยู่ที่บ้าน ฟ้าหยาด และต่อมาประมาณปี พ.ศ.2409 ได้มีการสร้างวัดหอก่อง แล้วได้นิมนต์พระครูสีดา ธรรมกิตติกา จากเมืองอุบลราชธานี มาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ในช่วงเทศกาลมาฆบูชา มีประเพณีท้องถิ่นอย่างหนึ่งที่ยึดถือปฏิบัติติดต่อกันมายาวนาน คือ บุญแห่พวงมาลัย มีการนำข้าวตอก ดอกไม้ ไปถวายเป็นพุทธบูชา ตามพระไตรปิฏกส่วนที่ว่าด้วยพระสุตตันตปิฏก บทปรินิพพานสูตร กล่าวถึงดอกมณฑารพ ซึ่งเป็นดอกไม้ทิพย์บนสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์ ที่มีความสวยงามและมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ เวลาดอกมณฑารพจะบานและร่วงหล่นก็ด้วยเหตุการณ์สำคัญ ๆ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพาน วันจาตุรงคสันนิบาต และทรงแสดงพระธัมมจักกัปปวัตนสูตร ดอกมณฑารพ ได้ร่วงหล่นโปรยปรายลงมายังพื้นโลกมนุษย์
ครั้งเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จดับขันธุ์ปรินิพพาน ที่เมืองกุฉินารา ดอกมณฑารพก็ล่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของพระพุทธเจ้าเพื่อบูชาพระพุทธองค์ครั้งนั้นเหล่าพระภิกษุผู้ได้ชื่อว่าอรหันต ขีนาสพทั้งหลายด้วย หมู่เหล่าข้าราชบริพารทั้งหลายได้พากันมาถวายสักการะพระบรมศพ อีกทั้งยังได้พากันเก็บดอกมณฑารพที่ร่วงหล่นลงมา เพื่อไปสักการบูชาและรำลึกถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป ดอกมณฑารพ ที่เก็บมาสักการบูชาเริ่มเหี่ยวแห้งและหมดไป เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระปัญญาธิคุณพระกรุณาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ รวมทั้งเหตุการณ์ในวันสำคัญต่าง ๆ จึงได้พากันนำเอาข้าวตอกมาสักการบูชา เพราะถือว่าข้าวเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นของสูง ที่มนุษย์ขาดไม่ได้ การจัดข้าวตอกดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชามีจุดเริ่มต้นเมื่อไหร่นั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ที่อำเภอมหาชนะชัย มีการแห่มาลัยข้าวตอกมานานกว่า 100 ปี โดยจะแห่มาลัยข้าวตอกก่อนวันมาฆบูชา 1 วัน เพื่ออนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป และเพื่อความสมัครสมานสามัคคีและส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับท้องถิ่น
การจัดงานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก ปีนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศการประกวดมาลัยข้าวตอก ประเภท มาลัยสายฝน และมาลัยข้อ จำนวน 2 ถ้วยรางวัล ยังความปลาบปลื้มปิติ และภาคภูมิใจอย่างสุดซึ้งให้กับพี่น้องชาวอำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร
//////// วีรพล บุญเดช ผู้สื่อข่าว รายการข่าวรอบรั้วภูธร TV 13 สยามไทย ช่อง212 psi///รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น