กรมอุทยานแห่งชาติ ระดมกำลังจับบุกรุกป่ากว่า 2 หมื่นไร่ ในพื้นที่ต้นน้ำประจวบคีรีขันธ์
ภาพ ข่าว พิสิษฐ์ รื่นเกษม / ประจวบคีรีขันธ์
กรมอุทยานแห่งชาติ ระดมกำลังจับบุกรุกป่ากว่า 2 หมื่นไร่ ในพื้นที่ต้นน้ำประจวบคีรีขันธ์
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 19 ก.พ.61 นายนิธิ อาจสมรรถ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ได้เดินทางไปที่หมู่บ้านคีรีล้อม หมู่ที่ 1 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าทีมเฉพาะกิจ ทัพพระยาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ นายวันชัย สิงโต ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นำกำลังเดินทางไปสมทบกับ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากรหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 สำนักงานสนับสนุนป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่าและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรมกรมหลวงชุมพรด้านทิศเหนือตอนบนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นอกจากนี้ยังมีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดประจวบ ฯ หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ ฝ่ายปกครองอำเภอบางสะพาน และอำเภอบางสะพานน้อย ตำรวจภูธรบางสะพานและบางสะพานน้อย กองร้อยทหารพรานที่ 140 2 กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 147 กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตำรวจภูธรภาค 7 เข้าร่วมในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวเกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรมกรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน)
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าทีมเฉพาะกิจ ทัพพระยาเสือ กล่าวว่า แผนยุทธการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งนี้เนื่องจากเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นป่าอนุรักษ์ที่สำคัญของอำเภอบางสะพานและอำเภอบางสะพานน้อย แต่มีการ ลักลอบบุกรุกทำลายป่า โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าบริเวณปากคลองลอย ในท้องที่หมู่ที่ 8 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน ป่าช่องลม ป่าเหมืองใหญ่ ป่าท่าใหญ่ หมู่ที่ 8 ต.ช้างแรก ปากคลองกุ่ม แพรกงาช้าง ป่าหินเพลิง ในท้องที่หมู่ที่ 3 ต.ไชยราช ป่าทับสังกะสี ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลมห่างไกล ยากกว่าการเข้าถึงและเฝ้าระวัง ได้มีราษฎรเข้าไปลักลอบบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าไม้และมีแนวโน้มจะขยายพื้นที่รุกล้ำเข้าไปแผ้วถางพื้นที่ป่าไม้ของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะเป็นปัญหายุ่งยากในการบริหารจัดการต่อไปในอนาคต
โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ดำเนินการป้องกันปราบปรามแต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าลงได้ เนื่องจากงบประมาณและอัตรากำลังเจ้าหน้าที่น้อย จึงจะเป็นอย่างยิ่งต้องมีอัตรากำลังเจ้าหน้าที่สำหรับใช้ในการรับตะวันหมุนเวียนสับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดรวมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการป่าไม้ เพื่อป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำลำธารในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรมกรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือตอนบน เพื่อทวงคืนพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อรักษาพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
โดยมีการจัดตั้งชุดปฏิบัติการจำนวน 6 ชุด เข้าตรวจสอบพื้นที่จำนวน 6 โซน ลาดตระเวนป้องกันการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ และตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายตามแผนจำนวน 530 แรงพื้นที่ 21,140 ไร่ จัดทำบันทึกตรวจสอบในกรณีที่พบการกระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ดำเนินการจัดทำบันทึกแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน และรายงานผลปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชา และดำเนินการติดป้ายตรวจยึดทุก 8 ที่มีการตรวจยึด โดยเริ่มปฏิบัติการ ระหว่างวันที่ 19 ก.พ.ถึง 5 มี.ค. เป็นเวลา 15 วัน
///////////////
กรมอุทยานแห่งชาติ ระดมกำลังจับบุกรุกป่ากว่า 2 หมื่นไร่ ในพื้นที่ต้นน้ำประจวบคีรีขันธ์
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 19 ก.พ.61 นายนิธิ อาจสมรรถ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ได้เดินทางไปที่หมู่บ้านคีรีล้อม หมู่ที่ 1 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าทีมเฉพาะกิจ ทัพพระยาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ นายวันชัย สิงโต ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นำกำลังเดินทางไปสมทบกับ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากรหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 สำนักงานสนับสนุนป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่าและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรมกรมหลวงชุมพรด้านทิศเหนือตอนบนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นอกจากนี้ยังมีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดประจวบ ฯ หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ ฝ่ายปกครองอำเภอบางสะพาน และอำเภอบางสะพานน้อย ตำรวจภูธรบางสะพานและบางสะพานน้อย กองร้อยทหารพรานที่ 140 2 กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 147 กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตำรวจภูธรภาค 7 เข้าร่วมในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวเกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรมกรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนบน)
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าทีมเฉพาะกิจ ทัพพระยาเสือ กล่าวว่า แผนยุทธการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งนี้เนื่องจากเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นป่าอนุรักษ์ที่สำคัญของอำเภอบางสะพานและอำเภอบางสะพานน้อย แต่มีการ ลักลอบบุกรุกทำลายป่า โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าบริเวณปากคลองลอย ในท้องที่หมู่ที่ 8 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน ป่าช่องลม ป่าเหมืองใหญ่ ป่าท่าใหญ่ หมู่ที่ 8 ต.ช้างแรก ปากคลองกุ่ม แพรกงาช้าง ป่าหินเพลิง ในท้องที่หมู่ที่ 3 ต.ไชยราช ป่าทับสังกะสี ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลมห่างไกล ยากกว่าการเข้าถึงและเฝ้าระวัง ได้มีราษฎรเข้าไปลักลอบบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าไม้และมีแนวโน้มจะขยายพื้นที่รุกล้ำเข้าไปแผ้วถางพื้นที่ป่าไม้ของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะเป็นปัญหายุ่งยากในการบริหารจัดการต่อไปในอนาคต
โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ดำเนินการป้องกันปราบปรามแต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าลงได้ เนื่องจากงบประมาณและอัตรากำลังเจ้าหน้าที่น้อย จึงจะเป็นอย่างยิ่งต้องมีอัตรากำลังเจ้าหน้าที่สำหรับใช้ในการรับตะวันหมุนเวียนสับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดรวมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการป่าไม้ เพื่อป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำลำธารในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุทยานเสด็จในกรมกรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือตอนบน เพื่อทวงคืนพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อรักษาพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
โดยมีการจัดตั้งชุดปฏิบัติการจำนวน 6 ชุด เข้าตรวจสอบพื้นที่จำนวน 6 โซน ลาดตระเวนป้องกันการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ และตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายตามแผนจำนวน 530 แรงพื้นที่ 21,140 ไร่ จัดทำบันทึกตรวจสอบในกรณีที่พบการกระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ดำเนินการจัดทำบันทึกแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน และรายงานผลปฏิบัติต่อผู้บังคับบัญชา และดำเนินการติดป้ายตรวจยึดทุก 8 ที่มีการตรวจยึด โดยเริ่มปฏิบัติการ ระหว่างวันที่ 19 ก.พ.ถึง 5 มี.ค. เป็นเวลา 15 วัน
///////////////
ไม่มีความคิดเห็น