วัดถ้ำพรุตะเคียนเปิดตลาดนาบุญ ให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมทำทานต้นเดือนมีนาคม
เจริญ อาจประดิษฐ์ 0849924219
วัดถ้ำพรุตะเคียนเปิดตลาดนาบุญ ให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมทำทานต้นเดือนมีนาคม
วัดถ้ำพรุตะเคียน ตำบลสลุย อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เตรียมเปิดตลาดนาบุญเขต ซึ่งเป็นงานประเพณีที่สำคัญของวัดถ้ำพรุตะเคียน ในแต่ละปีจะมีผู้ประกอบกิจการร้านอาหารดังๆหลายจังหวัด ทุกภาคของประเทศ มาร่วมกันออกร้านอาหารอร่อย เครื่องดื่มต่างๆ นานาชนิด เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาได้รับประทานกันฟรี ในเดือนมีนาคมของทุกปี
ปีนี้ได้กำหนดจัดงานตลาดนาบุญ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา เช้ามีพิธีทำบุญตามประเพณี มีการจัดถือศีล ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม ช่วงเย็น มีพิธีเวียนเทียนบนยอดเขา รอบพระพุทธรัตนเจดีย์ หลังจากนั้น จะมีการ ถือศีล ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม ไปจนถึงวันที่ 4 มีนาคม ทุกวันจะเปิดให้พุทธศาสนิกชนร่วมกันปิดทอง พระพุทธรูปในอุโบสถ องค์พระใหญ่บนยอดเขา และ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธ์ภายในพระพุทธรัตนเจดีย์
โดยวันที่ 3 มีนาคม จะมีคณะผ้าป่าจากที่ต่างๆ และร้านอาหารจะเริ่มทยอยเดินทางมาร่วมในตลาดนาบุญ พร้อมพักค้างคืนที่วัด รุ่งเช้าวันที่ 4 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 04.00 น เริ่มมีการจัดตั้ง "ร้านตลาดนาบุญ" เพื่อรองรับพุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศ ที่จะเดินทางมา โดยเงินที่ได้จากการบริจาค ร้านค้าต่างๆจะนำสมทบเป็นกองผ้าป่ามหากุศล ทอดร่วมกัน ณ วัดถ้ำพรุตะเคียน เพื่อทะนุบำรุงพุทธศาสนา
สำหรับความเป็นมาของวัดถ้าพระตะเคียน เป็นวัดป่าที่อยู่ใกล้กับศาลพ่อตาหินช้าง เมื่อปีพุทธศักราช 2520 มีพระธุดงค์รูปหนึ่ง เดินมาจากภาคเหนือ เข้ามาอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งเป็นถ้ำขนาดย่อมเพื่อปฏิบัติธรรมกรรมฐานเป็นเวลา 7 เดือน ทั้งๆที่ทำดังกล่าว ผู้คนในพื้นที่ต่างรู้ดีว่ามีงูเหลือมขนาดใหญ่สัตว์ป่ามีพิษมากมาย อาศัยอยู่ภายในถ้ำ ช่วงเข้าพรรษาพระธุดงค์รูปดังกล่าวจะเดินไปจำพรรษาอยู่กับ หลวงพ่อเภาที่วัดถ้ำเขาพลู อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร หลังออกพรรษาจะเดินไปภาคเหนือแล้วเดินธุดงค์กลับมา อยู่ในถ้ำพรุตะเคียน
ครั้นชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาจึงได้สร้างกุฏิไม้ ขึ้นมา 1 หลัง และสร้างศาลาฟังธรรม แต่ท่านก็คงไปไปมามาอยู่เช่นเดิม จนปีพุทธศักราช 2528 ชาวบ้านได้ขอให้ท่านจำพรรษาอยู่ที่นั่น พร้อมจัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ ถ้ำพุตะเคียน
ในเวลาต่อมา ปี 2532 ได้เกิดพายุเกย์ขึ้นในพื้นที่จังหวัดชุมพร สร้างความเสียหายโดยทั่วไปแต่เป็นที่น่ามหัศจรรย์ที่กุฏิเรือนไม้หลังเล็กที่มีหลวงพ่อโปร่งโชติโกอยู่จังหวัดไม่ได้ถูกทำร้ายแต่อย่างใด
แรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศ ได้ร่วมกันพัฒนาสำนักสงฆ์ถ้ำพรุตะเคียนเรื่อยมา ทำให้ปัจจุบันมีกุฏิปูน 30 หลัง กุฏิไม้จำนวน 31 หลัง เพื่อรับพระสายกรรมฐานจากทั่วประเทศที่เดินทางธุดงค์และจำพรรษา จนกระทั่งหลวงพ่อโปร่ง โชติโก เจ้าอาวาส ได้รับการแต่งตั้งเป็น "พระครูโสตถยาธิคุณ” ในเวลาต่อมา หลังจากนั้นพุทธศาสนิกชนจึงได้ร่วมกันสร้างศาลาการเปรียญหอสวดมนต์ศาลาหอฉันศาลาเอนกประสงค์พระปฐมเจดีย์พระพุทธรูปองค์ใหญ่หอระฆัง และพระอุโบสถ ยกฐานะเป็นวัดเมื่อปี 2547
มีความสำคัญของพุทธสถานเช่นพระพุทธรัตนเจดีย์ สูง 60 เมตร ด้านในบรรจุพระธาตุที่มีผู้นำมาถวายและเป็นที่ประดิษฐานของพระโลกะวิทู ที่เป็นพระทองคำซึ่งได้พบในถ้ำตั้งแต่อดีต ปัจจุบันพระพุทธรัตนเจดีย์ได้ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญทางศาสนา พระองค์ใหญ่สูง 26 เมตร สร้างไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน และที่สำคัญพระอุโบสถแบบมหาอุด กว้าง 9 เมตร ยาว 30.50 เมตร สูง 26 เมตร เป็นศิลปะยุครัตนโกสินทร์ บนหลังคามีการก่อสร้างเจดีย์ พุทธคายาจำลองเพื่อบรรจุพระธาตุ ภายในพระอุโบสถมีพระประธานชื่อองค์ปฐม รูปแบบเดียวกับวัดท่าซุง ผนังวาดด้วยสีทองคำ หนึ่งเดียวในประเทศไทย ใบเสมาเป็นหยกเขียวจากประเทศอินเดีย แกะสลักเป็นลายไทย หนึ่งเดียวในโลก มีวิธีผูกพัทธสีมาตัดหวายฝังลูกนิมิตเมื่อ 2555
ประวัติของหลวงพ่อโปร่งโชติโก หรือ พระครูโสตถยาธิคุณ ปัจจุบันอายุ 89 พรรษา อายุพรรษา 42 สถานะเดิมชื่อโป่ง อยู่กลัด เกิดปีมะเมีย วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2473 บิดาชื่อเปลื่อง อยู่กลัด มารดาชื่อ นางทองหล่ออยู่กลัด บ้านเลขที่ 63/1 หมู่ 5 ตำบลตลาดขวัญอำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี อุปสมบทเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2519 ณ วัดนาขวาง ตำบลกาหลง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร พระอุปัชฌาย์คือ พระครูสมุทรธรรมสุนทร วัดกาหลง
สอบได้นักธรรมโท ฝึกสมาธิกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อเภา วัดถ้ำเขาพูน อำเภอปะทิวจังหวัดชุมพร และฝึกวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อดาบส ที่อาศรมไผ่มรกต ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย มีความรู้และชอบเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ จนกระทั่งมาจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์ถ้ำพุตะเคียนแห่งนี้
ส่วนวัตถุมงคล เนื่องจากหลวงพ่อโปร่ง โชติโก เป็นพระสายกรรมฐาน จึงมีแรงศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนที่นิยมวัตถุมงคลของหลวงพ่อไปคล้องคอกันทุกรุ่น ว่ากันว่า นำไปค้าขายร่ำรวย แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายต่างๆใดๆทั้งปวง หรือนำรูปหล่อหลวงพ่อไปขึ้นหิ้งบูชาเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ประกอบกิจการค้าขายต่างๆ
จากความศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อโปร่งวัดถ้ำพรุตะเคียน พระสายกรรมฐานที่มีอย่างท่วมท้น ทำให้วัดถ้ำพรุตะเคียนแห่งนี้ กลายศูนย์รวมของพระสายวิปัสสนา และพุทธศาสนิกชนที่รักสงบ รักธรรม รักษ์ธรรมชาติเดินทางมาร่วมปฏิบัติธรรมกันอย่างไม่ขาดสาย และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นมากขึ้น จนกลายเป็นสถานที่สำคัญของพุทธศาสนาอีกแห่งหนึ่ง ที่สามารถถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้า ปฏิบัติชอบตามแนวทางของพระธรรมคำสั่งสอน และเป็นศูนย์รวมของชาวพุทธที่ของประเทศอีกแห่งที่สำคัญ
ตลาดนาบุญเขต งานประเพณีที่สำคัญของวัดถ้ำพรุตะเคียน ระหว่างวันที่ 1-4 มีนาคมนี้ จะมีการนำวัตถุมงคลรุ่น ฉลองเลื่อนสมณศักดิ์ หลวงพ่อโปร่งโชติโก หรือ พระครูโสตถยาธิคุณ ที่มีการปลุกเสกเมื่อปี 2560 โดยหลวงพ่อโปร่งและพระเกจิดังได้ทำการปลุกเสก ออกมาแจกจ่ายผู้ร่วมงาน เชื่อว่าจะมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาร่วม ถือศีล ฟังธรรม ปฏิบัติธรรมกันจำนวนมาก และในวันที่ 4 มีนาคม เจ้าของกิจการ ทุกภาคของประเทศ จะมาร่วมกันออกร้านอาหารจานเด็ด ให้ได้ร่วมกันอิ่มท้อง ร่วมกันทอดผ้าป่ามหากุศล ได้อิ่มบุญกันถ้วนหน้า
ท่านใดสนใจจะไปร่วมออกร้านตลาดนาบุญ สามารถประสานงานติดต่อได้ที่ พระอธิการชัยรัตน์ 0854445159
///////////////////
วัดถ้ำพรุตะเคียนเปิดตลาดนาบุญ ให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมทำทานต้นเดือนมีนาคม
ปีนี้ได้กำหนดจัดงานตลาดนาบุญ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา เช้ามีพิธีทำบุญตามประเพณี มีการจัดถือศีล ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม ช่วงเย็น มีพิธีเวียนเทียนบนยอดเขา รอบพระพุทธรัตนเจดีย์ หลังจากนั้น จะมีการ ถือศีล ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม ไปจนถึงวันที่ 4 มีนาคม ทุกวันจะเปิดให้พุทธศาสนิกชนร่วมกันปิดทอง พระพุทธรูปในอุโบสถ องค์พระใหญ่บนยอดเขา และ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธ์ภายในพระพุทธรัตนเจดีย์
โดยวันที่ 3 มีนาคม จะมีคณะผ้าป่าจากที่ต่างๆ และร้านอาหารจะเริ่มทยอยเดินทางมาร่วมในตลาดนาบุญ พร้อมพักค้างคืนที่วัด รุ่งเช้าวันที่ 4 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 04.00 น เริ่มมีการจัดตั้ง "ร้านตลาดนาบุญ" เพื่อรองรับพุทธศาสนิกชนจากทั่วประเทศ ที่จะเดินทางมา โดยเงินที่ได้จากการบริจาค ร้านค้าต่างๆจะนำสมทบเป็นกองผ้าป่ามหากุศล ทอดร่วมกัน ณ วัดถ้ำพรุตะเคียน เพื่อทะนุบำรุงพุทธศาสนา
สำหรับความเป็นมาของวัดถ้าพระตะเคียน เป็นวัดป่าที่อยู่ใกล้กับศาลพ่อตาหินช้าง เมื่อปีพุทธศักราช 2520 มีพระธุดงค์รูปหนึ่ง เดินมาจากภาคเหนือ เข้ามาอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งเป็นถ้ำขนาดย่อมเพื่อปฏิบัติธรรมกรรมฐานเป็นเวลา 7 เดือน ทั้งๆที่ทำดังกล่าว ผู้คนในพื้นที่ต่างรู้ดีว่ามีงูเหลือมขนาดใหญ่สัตว์ป่ามีพิษมากมาย อาศัยอยู่ภายในถ้ำ ช่วงเข้าพรรษาพระธุดงค์รูปดังกล่าวจะเดินไปจำพรรษาอยู่กับ หลวงพ่อเภาที่วัดถ้ำเขาพลู อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร หลังออกพรรษาจะเดินไปภาคเหนือแล้วเดินธุดงค์กลับมา อยู่ในถ้ำพรุตะเคียน
ครั้นชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธาจึงได้สร้างกุฏิไม้ ขึ้นมา 1 หลัง และสร้างศาลาฟังธรรม แต่ท่านก็คงไปไปมามาอยู่เช่นเดิม จนปีพุทธศักราช 2528 ชาวบ้านได้ขอให้ท่านจำพรรษาอยู่ที่นั่น พร้อมจัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ ถ้ำพุตะเคียน
ในเวลาต่อมา ปี 2532 ได้เกิดพายุเกย์ขึ้นในพื้นที่จังหวัดชุมพร สร้างความเสียหายโดยทั่วไปแต่เป็นที่น่ามหัศจรรย์ที่กุฏิเรือนไม้หลังเล็กที่มีหลวงพ่อโปร่งโชติโกอยู่จังหวัดไม่ได้ถูกทำร้ายแต่อย่างใด
แรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศ ได้ร่วมกันพัฒนาสำนักสงฆ์ถ้ำพรุตะเคียนเรื่อยมา ทำให้ปัจจุบันมีกุฏิปูน 30 หลัง กุฏิไม้จำนวน 31 หลัง เพื่อรับพระสายกรรมฐานจากทั่วประเทศที่เดินทางธุดงค์และจำพรรษา จนกระทั่งหลวงพ่อโปร่ง โชติโก เจ้าอาวาส ได้รับการแต่งตั้งเป็น "พระครูโสตถยาธิคุณ” ในเวลาต่อมา หลังจากนั้นพุทธศาสนิกชนจึงได้ร่วมกันสร้างศาลาการเปรียญหอสวดมนต์ศาลาหอฉันศาลาเอนกประสงค์พระปฐมเจดีย์พระพุทธรูปองค์ใหญ่หอระฆัง และพระอุโบสถ ยกฐานะเป็นวัดเมื่อปี 2547
มีความสำคัญของพุทธสถานเช่นพระพุทธรัตนเจดีย์ สูง 60 เมตร ด้านในบรรจุพระธาตุที่มีผู้นำมาถวายและเป็นที่ประดิษฐานของพระโลกะวิทู ที่เป็นพระทองคำซึ่งได้พบในถ้ำตั้งแต่อดีต ปัจจุบันพระพุทธรัตนเจดีย์ได้ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญทางศาสนา พระองค์ใหญ่สูง 26 เมตร สร้างไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน และที่สำคัญพระอุโบสถแบบมหาอุด กว้าง 9 เมตร ยาว 30.50 เมตร สูง 26 เมตร เป็นศิลปะยุครัตนโกสินทร์ บนหลังคามีการก่อสร้างเจดีย์ พุทธคายาจำลองเพื่อบรรจุพระธาตุ ภายในพระอุโบสถมีพระประธานชื่อองค์ปฐม รูปแบบเดียวกับวัดท่าซุง ผนังวาดด้วยสีทองคำ หนึ่งเดียวในประเทศไทย ใบเสมาเป็นหยกเขียวจากประเทศอินเดีย แกะสลักเป็นลายไทย หนึ่งเดียวในโลก มีวิธีผูกพัทธสีมาตัดหวายฝังลูกนิมิตเมื่อ 2555
ประวัติของหลวงพ่อโปร่งโชติโก หรือ พระครูโสตถยาธิคุณ ปัจจุบันอายุ 89 พรรษา อายุพรรษา 42 สถานะเดิมชื่อโป่ง อยู่กลัด เกิดปีมะเมีย วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2473 บิดาชื่อเปลื่อง อยู่กลัด มารดาชื่อ นางทองหล่ออยู่กลัด บ้านเลขที่ 63/1 หมู่ 5 ตำบลตลาดขวัญอำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี อุปสมบทเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2519 ณ วัดนาขวาง ตำบลกาหลง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร พระอุปัชฌาย์คือ พระครูสมุทรธรรมสุนทร วัดกาหลง
สอบได้นักธรรมโท ฝึกสมาธิกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อเภา วัดถ้ำเขาพูน อำเภอปะทิวจังหวัดชุมพร และฝึกวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อดาบส ที่อาศรมไผ่มรกต ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย มีความรู้และชอบเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ จนกระทั่งมาจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์ถ้ำพุตะเคียนแห่งนี้
ส่วนวัตถุมงคล เนื่องจากหลวงพ่อโปร่ง โชติโก เป็นพระสายกรรมฐาน จึงมีแรงศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนที่นิยมวัตถุมงคลของหลวงพ่อไปคล้องคอกันทุกรุ่น ว่ากันว่า นำไปค้าขายร่ำรวย แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายต่างๆใดๆทั้งปวง หรือนำรูปหล่อหลวงพ่อไปขึ้นหิ้งบูชาเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ประกอบกิจการค้าขายต่างๆ
จากความศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่อโปร่งวัดถ้ำพรุตะเคียน พระสายกรรมฐานที่มีอย่างท่วมท้น ทำให้วัดถ้ำพรุตะเคียนแห่งนี้ กลายศูนย์รวมของพระสายวิปัสสนา และพุทธศาสนิกชนที่รักสงบ รักธรรม รักษ์ธรรมชาติเดินทางมาร่วมปฏิบัติธรรมกันอย่างไม่ขาดสาย และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นมากขึ้น จนกลายเป็นสถานที่สำคัญของพุทธศาสนาอีกแห่งหนึ่ง ที่สามารถถ่ายทอดคำสอนของพระพุทธเจ้า ปฏิบัติชอบตามแนวทางของพระธรรมคำสั่งสอน และเป็นศูนย์รวมของชาวพุทธที่ของประเทศอีกแห่งที่สำคัญ
ตลาดนาบุญเขต งานประเพณีที่สำคัญของวัดถ้ำพรุตะเคียน ระหว่างวันที่ 1-4 มีนาคมนี้ จะมีการนำวัตถุมงคลรุ่น ฉลองเลื่อนสมณศักดิ์ หลวงพ่อโปร่งโชติโก หรือ พระครูโสตถยาธิคุณ ที่มีการปลุกเสกเมื่อปี 2560 โดยหลวงพ่อโปร่งและพระเกจิดังได้ทำการปลุกเสก ออกมาแจกจ่ายผู้ร่วมงาน เชื่อว่าจะมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาร่วม ถือศีล ฟังธรรม ปฏิบัติธรรมกันจำนวนมาก และในวันที่ 4 มีนาคม เจ้าของกิจการ ทุกภาคของประเทศ จะมาร่วมกันออกร้านอาหารจานเด็ด ให้ได้ร่วมกันอิ่มท้อง ร่วมกันทอดผ้าป่ามหากุศล ได้อิ่มบุญกันถ้วนหน้า
ท่านใดสนใจจะไปร่วมออกร้านตลาดนาบุญ สามารถประสานงานติดต่อได้ที่ พระอธิการชัยรัตน์ 0854445159
///////////////////
ไม่มีความคิดเห็น