จบลงด้วยดี ข้อพิพาทระหว่างมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่ากับเจ้าของลิง หลังโซเซียลเปิดเผย เจ้าของอยากได้ลิงคืน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ดูแลกรีดกัน
จบลงด้วยดี ข้อพิพาทระหว่างมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่ากับเจ้าของลิง หลังโซเซียลเปิดเผย เจ้าของอยากได้ลิงคืน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ดูแลกรีดกัน
จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ้ครายหนึ่งโพสขอความช่วยเหลือ"มะลิ"ลูกลิงวัย3ขวบ ที่ก่อนหน้านั้นมารดาได้นำไปมอบให้กับสวนสัตว์แห่งหนึ่ง ซึ่งข้อความระบุว่า สวนสัตว์ไม่สามารถดูแลลิงเท่าที่ควร ลิงมะลิอยู่ในอาการซึมเศร้า ไม่ยอมกินอาหาร จนมีอาการเครียดถึงขั้นกัดหางตัวเองจนขาด แต่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ไม่ได้แจ้งให้กับเจ้าของทราบ จนกระทั่งเจ้าของแอบเข้าไปถ่ายคลิปขณะเข้าไปดูอาการของลิงมะลิ และนำมาโพส จนผู้ใช้เฟสบุ้คจำนวนมากได้แชร์ออกไปในวงกว้าง และแสดงความคิดเห็นด้วยการคอมเม้นต์กันไปต่างๆนานา
กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันที่7มีนาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบจนทราบว่า ลูกลิง"มะลิ"ตัวดังกล่าว เจ้าของคือนาง เฉลา บุตรงูเหลือม อายุ45ปี ชาวบ้านท่าขาม ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ได้นำมอบให้กับมูลนิธิเพื่ิิอนสัตว์ป่า ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหลังวัดเขาลูกช้าง ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โดยมีนายเอดวินท์ เป็นประธานมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ไว้เมื่อวันที่ 30มกราคม 2561 นายเอดวินท์ระบุว่า ก่อนหน้านั่นทางนางเฉลาได้มีความประสงค์มอบลิงมะลิให้กับทางมูลนิธิดูแลเพราะเจ้าของเห็นว่าน่าจะส่งลิงมะลิกลับคืนสู่ป่าตามธรรชาติมากกว่าจะให้อยุ่ร่วมกันกับมนุษย์อีกทั้งลิงมะลิเริ่มโตขึ้นบางครั้งมักมีอารมณ์โมโหดุร้าย แต่ระหว่างที่ลิงมะลิอยู่ในความคุ้มครองของมูลนิธิ ทางเจ้าหน้าที่กำลังอนุบาลปรับเปลี่ยนลิงมะลิให้เปลี่ยนพฤติกรรมเข้ากับลิงตัวอื่นๆ แต่เจ้าของกลับแอบเข้ามาเยี่ยมเยียนลิงมะลิพร้อมกับนำอาหารชนิดเดียวกับที่เคยเลี้ยงไว้มาป้อนจนทำให้ลิงตัวอื่นแย่งชิงอาหารจนกระทั่งถุกกัดจนหางขาด แต่เจ้าของคิดว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลลิงมะลิได้ดีกว่าตนจนอยากได้ลิงมะลิคืน แต่ทางมูลนิธิไม่สามารถส่งคืนกลับให้ได้เพราะได้ส่งรายงานการรับสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในความอนุบาลต่อสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่3สาขาเพชรบุรีไว้แล้ว หากมอบกลับให้กลับเจ้าของทางมูลนิธิจะมีความผิดตามไปด้วย และได้นำลิงมะลิออกจากกรงอนุบาลมายืนยันให้ผู้สื่อข่าวดูว่า ปัจจุบันลิงมะลิ ไม่ได้มีอาการเหงาซึมแต่อย่างใด มีพฤติกรรมล่าเริงเเจ่มใจ ขี้อ้อนขี้ประจบ และสามารถกินอาหารตามที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการทุกอย่าง นอกจากนั้นสัตวแพทย์ประจำมูลนิธิอยู่ระหว่างการให้วัคซีนเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บและจากการตรวจพบว่าลิงมะลิมีน้ำตาลในเส้นเลือดผิดปกติ เนื่องจากเจ้าของคงเลี้ยงลิงมะลิแบบเลี้ยงลูกด้วยการป้อนขนม นม เนย ซึ่งเป็นการเลี้ยงสัตว์ป่าอย่างผิดวิธี ขอยืนยันว่าทางมูลนิธิเพื่ิอนสัตว์ป่าให้ความดูแลลิงมะลิตามหลักขั้นตอนของการอนุบาลสัตว์ป่าเพื่อคืนกลับสู่ธรรมชาติอย่างดีที่สุด แต่ที่ไม่สามารถส่งมอบคืนได้เพราะมันขัดกลับกฏหมายคุ้มครองสัตว์ป่า เพราะลิงคือสัตว์ป่าคุ้มครองอีกชนิดหนึ่ง และจะไม่ถือโทษโกรธเคืิองลูกสาวของเจ้าของลิงมะลิ ที่นำไปโพสจนสร้างความเสียหายให้กับมูลธิ เพราะตนเข้าใจหัวอกของคนที่มีความผูกพันธ์ลิงมะลิ แต่อยากให้ผู้ที่เข้าไปคอมเมนต์ได้เข้าใจเจตนารมณ์ของมูลนิธิด้วย
ในขณะที่นางเฉลา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้นเมื่อประมาณ4 ปีที่ผ่านมา ขณะครอบครัวของตนกำลังเดินทางไปทำธุรที่บริเวณหน้าเขาวัง อ.เมืองเพชรบุรี ขณะเดินทางผ่านหน้าเขาวังพบเห็นรถชนแม่ลิงลูกอ่อนตายอยู่บนถนน โดยมีลูกลิงตัวเล็กๆนอนกอดศพแม่และร้องเรียกตามภาษาลิง ครอบครัวตนจึงลงไปช่วยนำลูกลิงขึ้นมาเพราะเกรงว่ารถจะเหยียบซ้ำ กระทั่งนำกลับมาเลี้ยงที่บ้านเรื่อยมาโดยให้ความรักเปรียบเสมือนลูก โดยตั้งชื่อว่า"มะลิ"เนื่องจากเป็นเพศเมีย กินนอนอาบน้ำด้วยกันหมด จนเกิดความผูกพันธ์เรื่อยมา กระทั่งต่อมาตนคิดว่า เราเลี้ยงลูกก็อยากให้ลูกได้ดี จึงหวนคิดทบทวนถึง"ลิงมะลิ"ซึ่งเราก็รักเหมือนลูกคนหนึ่ง จึงอยากให้ลิงมะลิ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงอยากส่งเค้ากลับคืนสู่ป่าเพื่อหวังให้เค้าไปมีครอบครัว จนมีเพื่อนแนะนำให้มามอบให้กลับมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าเขาลูกช้าง แต่หลังจากมอบมะลิให้กับมูลนิธิแล้ว ตนรู้สึกคิดถึงเป็นอย่างมาก จึงเดินทางไปหามะลิทุกวัน จนล่าสุดตนกับลูกและสามี อยากได้ลิงมะลิกลับคืนมา แต่ทางมูลนิธิแจ้งว่าไม่สามารถส่งมอบคืนได้ อีกทั้งตนไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดถึงลิงมะลิหางขาดด้วยสาเหตุใด จึงมาเล่าให้ลูกฟังและวันต่อมาได้พากันไปเยี่ยมและมีการถ่ายคลิปดังกล่าว โดยหลังจากที่นายเอดวินท์ ชี้แจงทำความเข้าใจให้กับนางเฉลาได้รับทราบต่อหน้าสื่อมวลชน ทำให้นางเฉลามีท่าทีเข้าใจทางมูลนิธิมากขึ้น และยินยอมให้เจ้าลิงมะลิอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ต่อไปและจะมาเยี่ยมเยียนเป็นบางครั้ง เพื่อให้ทั้งนางเฉลาและลิงมะลิ ปรับสภาพความรู้สึกห่างกันออกไปตามลำดับ
กสิพล ศิริลาภ-ธนัท สุขดำเนิน/เพชรบุรี
จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ้ครายหนึ่งโพสขอความช่วยเหลือ"มะลิ"ลูกลิงวัย3ขวบ ที่ก่อนหน้านั้นมารดาได้นำไปมอบให้กับสวนสัตว์แห่งหนึ่ง ซึ่งข้อความระบุว่า สวนสัตว์ไม่สามารถดูแลลิงเท่าที่ควร ลิงมะลิอยู่ในอาการซึมเศร้า ไม่ยอมกินอาหาร จนมีอาการเครียดถึงขั้นกัดหางตัวเองจนขาด แต่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ไม่ได้แจ้งให้กับเจ้าของทราบ จนกระทั่งเจ้าของแอบเข้าไปถ่ายคลิปขณะเข้าไปดูอาการของลิงมะลิ และนำมาโพส จนผู้ใช้เฟสบุ้คจำนวนมากได้แชร์ออกไปในวงกว้าง และแสดงความคิดเห็นด้วยการคอมเม้นต์กันไปต่างๆนานา
กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันที่7มีนาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบจนทราบว่า ลูกลิง"มะลิ"ตัวดังกล่าว เจ้าของคือนาง เฉลา บุตรงูเหลือม อายุ45ปี ชาวบ้านท่าขาม ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ได้นำมอบให้กับมูลนิธิเพื่ิิอนสัตว์ป่า ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหลังวัดเขาลูกช้าง ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โดยมีนายเอดวินท์ เป็นประธานมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ไว้เมื่อวันที่ 30มกราคม 2561 นายเอดวินท์ระบุว่า ก่อนหน้านั่นทางนางเฉลาได้มีความประสงค์มอบลิงมะลิให้กับทางมูลนิธิดูแลเพราะเจ้าของเห็นว่าน่าจะส่งลิงมะลิกลับคืนสู่ป่าตามธรรชาติมากกว่าจะให้อยุ่ร่วมกันกับมนุษย์อีกทั้งลิงมะลิเริ่มโตขึ้นบางครั้งมักมีอารมณ์โมโหดุร้าย แต่ระหว่างที่ลิงมะลิอยู่ในความคุ้มครองของมูลนิธิ ทางเจ้าหน้าที่กำลังอนุบาลปรับเปลี่ยนลิงมะลิให้เปลี่ยนพฤติกรรมเข้ากับลิงตัวอื่นๆ แต่เจ้าของกลับแอบเข้ามาเยี่ยมเยียนลิงมะลิพร้อมกับนำอาหารชนิดเดียวกับที่เคยเลี้ยงไว้มาป้อนจนทำให้ลิงตัวอื่นแย่งชิงอาหารจนกระทั่งถุกกัดจนหางขาด แต่เจ้าของคิดว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลลิงมะลิได้ดีกว่าตนจนอยากได้ลิงมะลิคืน แต่ทางมูลนิธิไม่สามารถส่งคืนกลับให้ได้เพราะได้ส่งรายงานการรับสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในความอนุบาลต่อสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่3สาขาเพชรบุรีไว้แล้ว หากมอบกลับให้กลับเจ้าของทางมูลนิธิจะมีความผิดตามไปด้วย และได้นำลิงมะลิออกจากกรงอนุบาลมายืนยันให้ผู้สื่อข่าวดูว่า ปัจจุบันลิงมะลิ ไม่ได้มีอาการเหงาซึมแต่อย่างใด มีพฤติกรรมล่าเริงเเจ่มใจ ขี้อ้อนขี้ประจบ และสามารถกินอาหารตามที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการทุกอย่าง นอกจากนั้นสัตวแพทย์ประจำมูลนิธิอยู่ระหว่างการให้วัคซีนเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บและจากการตรวจพบว่าลิงมะลิมีน้ำตาลในเส้นเลือดผิดปกติ เนื่องจากเจ้าของคงเลี้ยงลิงมะลิแบบเลี้ยงลูกด้วยการป้อนขนม นม เนย ซึ่งเป็นการเลี้ยงสัตว์ป่าอย่างผิดวิธี ขอยืนยันว่าทางมูลนิธิเพื่ิอนสัตว์ป่าให้ความดูแลลิงมะลิตามหลักขั้นตอนของการอนุบาลสัตว์ป่าเพื่อคืนกลับสู่ธรรมชาติอย่างดีที่สุด แต่ที่ไม่สามารถส่งมอบคืนได้เพราะมันขัดกลับกฏหมายคุ้มครองสัตว์ป่า เพราะลิงคือสัตว์ป่าคุ้มครองอีกชนิดหนึ่ง และจะไม่ถือโทษโกรธเคืิองลูกสาวของเจ้าของลิงมะลิ ที่นำไปโพสจนสร้างความเสียหายให้กับมูลธิ เพราะตนเข้าใจหัวอกของคนที่มีความผูกพันธ์ลิงมะลิ แต่อยากให้ผู้ที่เข้าไปคอมเมนต์ได้เข้าใจเจตนารมณ์ของมูลนิธิด้วย
ในขณะที่นางเฉลา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้นเมื่อประมาณ4 ปีที่ผ่านมา ขณะครอบครัวของตนกำลังเดินทางไปทำธุรที่บริเวณหน้าเขาวัง อ.เมืองเพชรบุรี ขณะเดินทางผ่านหน้าเขาวังพบเห็นรถชนแม่ลิงลูกอ่อนตายอยู่บนถนน โดยมีลูกลิงตัวเล็กๆนอนกอดศพแม่และร้องเรียกตามภาษาลิง ครอบครัวตนจึงลงไปช่วยนำลูกลิงขึ้นมาเพราะเกรงว่ารถจะเหยียบซ้ำ กระทั่งนำกลับมาเลี้ยงที่บ้านเรื่อยมาโดยให้ความรักเปรียบเสมือนลูก โดยตั้งชื่อว่า"มะลิ"เนื่องจากเป็นเพศเมีย กินนอนอาบน้ำด้วยกันหมด จนเกิดความผูกพันธ์เรื่อยมา กระทั่งต่อมาตนคิดว่า เราเลี้ยงลูกก็อยากให้ลูกได้ดี จึงหวนคิดทบทวนถึง"ลิงมะลิ"ซึ่งเราก็รักเหมือนลูกคนหนึ่ง จึงอยากให้ลิงมะลิ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงอยากส่งเค้ากลับคืนสู่ป่าเพื่อหวังให้เค้าไปมีครอบครัว จนมีเพื่อนแนะนำให้มามอบให้กลับมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าเขาลูกช้าง แต่หลังจากมอบมะลิให้กับมูลนิธิแล้ว ตนรู้สึกคิดถึงเป็นอย่างมาก จึงเดินทางไปหามะลิทุกวัน จนล่าสุดตนกับลูกและสามี อยากได้ลิงมะลิกลับคืนมา แต่ทางมูลนิธิแจ้งว่าไม่สามารถส่งมอบคืนได้ อีกทั้งตนไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดถึงลิงมะลิหางขาดด้วยสาเหตุใด จึงมาเล่าให้ลูกฟังและวันต่อมาได้พากันไปเยี่ยมและมีการถ่ายคลิปดังกล่าว โดยหลังจากที่นายเอดวินท์ ชี้แจงทำความเข้าใจให้กับนางเฉลาได้รับทราบต่อหน้าสื่อมวลชน ทำให้นางเฉลามีท่าทีเข้าใจทางมูลนิธิมากขึ้น และยินยอมให้เจ้าลิงมะลิอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ต่อไปและจะมาเยี่ยมเยียนเป็นบางครั้ง เพื่อให้ทั้งนางเฉลาและลิงมะลิ ปรับสภาพความรู้สึกห่างกันออกไปตามลำดับ
กสิพล ศิริลาภ-ธนัท สุขดำเนิน/เพชรบุรี
ไม่มีความคิดเห็น