ชาวตำบลท่าแลง กว่า200คน ฮือ! ต่อต้านไม่ต้องการโรงงานขยะ!ยื่นหนังสือ ทวงถาม"นายก สงวน"เป็นคนท่าแลงหรือปล่าว ถึงปล่อยให้ชาวบ้านต้องทนกลิ่นเหม็นและปัญหาน้ำเสียข้าวในนาเริ่มตาย ทนทุกข์เกือบ10ปี

ชาวตำบลท่าแลง กว่า200คน ฮือ! ต่อต้านไม่ต้องการโรงงานขยะ!ยื่นหนังสือ ทวงถาม"นายก สงวน"เป็นคนท่าแลงหรือปล่าว ถึงปล่อยให้ชาวบ้านต้องทนกลิ่นเหม็นและปัญหาน้ำเสียข้าวในนาเริ่มตาย ทนทุกข์เกือบ10ปี

 เมื่อเวลา09.00น.วันที่28พฤษภาคม 2561นายอนุวัฒน์ เวชสว่าง อายุ 49ปี อยู่บ้านเลขที่55 หมู่9 ต.ท่าแลง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยชาวบ้านภายในตำบลท่าแลง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี กว่า200คน ประกอบด้วย หมู่ที่7บ้านเขาปากช่อง หมู่ที่8บ้านหนองน้ำถ่าย และหมู่ที่9บ้านลุ่มสมอ รวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลท่าแลง พร้อมเขียนป้ายคัดค้านว่า"ชาวท่าแลงไม่ต้องการโรงงานขยะ"โดยเรียกร้องให้เทศบาลตำบลท่าแลงปิดบ่อขยะของบริษัทเอกชนที่เปิดให้หน่วยงานต่างๆนำขยะมาทิ้งนับแสนตันจนส่งกลิ่นเหม็นและมีน้ำเสียซึมลงชั้นใต้ดินทำให้ข้าวในนาเริ่มตาย  นอกจากนั้นยังมีความประสงค์ต้องการเข้ายื่นหนังสือทวงถามกับนายสงวน จิตต์พุ่ม นายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ว่า นายสงวนเป็นคนท่าแลงหรือปล่าว ทำไมถึงไม่เห็นความเดือดร้อนของชาวท่าแลง โดยเหตุการครั้งนี้มี พ.ต.อ.อาชวิน บุญธรรมเจริญ ผกก.สภ.ท่ายาง และ ร.ท.พรศักดิ์ มณีรัตน์ พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.ที่15 จนท.กอรมน.จนท.ตำรวจชุดสืบภาค สืบ จว.เพชรบุรี และ จนท ฝ่ายปกครองอำเภอท่ายาง  ได้เข้าร่วมสังเกตุการณ์และตรึงกำลังดูแลรักษาความสงบเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุการณรุนแรงขึ้น ส่วนบรรยากาศการเรียกร้องมีความตรึงเครียดขึ้นพอสมควร สำหรับข้อความในหนังสือที่ชาวบ้านนำมายื่น ระบุว่า ขอให้นายกเทศมนตรีแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอันเกิดจากการปล่อยให้มีการก่อสร้างโรงงานขยะขึ้นที่เชิงเขาบ้านเขาปากช่อง หมู่ที่7 จนปัจจุบันมีชาวบ้านได้รับผลกระทบเนื่องจากเป็นมลพิษทางอากาศ และส่งผลเสียทางน้ำบาดาลที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ทางการเกษตร
 นายอนุวัตร แกนนำชาวบ้าน เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนพร้อมชาวบ้านในพื้นที่ตำบลท่าแลง รวมตัวกันคัดค้านไม่เอาโรงงานขยะที่บริษัท ดับเบิ้ลยูพีจีอี เพชรบุรีจำกัด ก่อตั้งในครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองในท้องถิ่นแต่อย่างใด แต่สาเหตุที่ชาวบ้านต้องการยื่นหนังสือเกิดจากชาวบ้านมีความเดือดร้อนจริงๆ ที่ผ่านมาเคยมีการยื่นหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแล้วทุกระดับ แต่ไม่ได้รับการแก้ไข ล่าสุดมีการลักลอบนำขยะจากจังหวัดอื่น อาทิ ขยะจากโรงงานอุตสาหกรรมจากจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ปทุมธานี และขยะจากจังหวัดชุมพรมาทิ้ง ซึ่งก็มีการตรวจจับได้ แต่ยังไม่มีการดำเนินคดีใดๆ ดังนั้นการรวมตัวกันของพี่น้องประชาชนชาวตำบลท่าแลงในครั้งนี้ มีอยู่ด้วยกัน 2ประเด็นหลักคือ ให้นายสงวน แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนที่ชาวบ้านได้รับจากโรงงานผลิตไฟฟ้าจากขยะเป็ยพลังงาน โดยปัจจุบันขยะส่งกลิ่นเหม็นสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้าน และเห็นว่าหากปล่อยขยะทิ้งไว้ให้เนิ่นนาน ปริมาณขยะจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น ปัญหาจะขยายวงกว้างไปเรื่อยๆปล่อยไว้อาจก่อให้เกิดปัญหาไปสู่ลูกหลานในภายภาคหน้า จึงมีความเห็นให้นายสงวน จิตต์พุ่ม นายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ซึ่งก็มีถิ่นฐานอยู่ในตำบลท่าแลงเช่นกัน ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของคนในตำบลเดียวกัน อย่าเห็นแต่ผลประโยชน์เกื้อกูลนายทุนที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อนภายในตำบล จึงอยากให้นายสงวนใช้อำนาจว่าด้วยการปกครองสู่ท้องถิ่น ดำเนินการยกเลิกการก่อสร้างหรือดำเนินการปิดบ่อขยะดังกล่าว เพื่อตัดปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า นอกจากนั้นในหนังสือยังระบุอีกว่า ปัจจุบันน้ำบาดาลที่ชาวบ้านใช้เป็นประโยชน์อยู่ได้ส่งกลิ่นเหม็น เนื่องจากบ่อขยะเป็นบ่อลูกรังเก่าและมีความเชื่อมต่อกัน ยากต่อการควบคุมการซึมของน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุการกระจายตัวของน้ำจากบ่อขยะปนเปื้อนทำให้น้ำในบ่อบาดาลที่มีตาน้ำจากพื้นที่ป่าเกิดผลกระทบได้รับความเสียหาย ดังนั้นตนพร้อมชาวบ้าน จึงต้องขอใุห้นายสงวนใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติ การดูแลชุมชนหาทางดำเนินการปิดหรือยกเลิกบ่อขยะดังกล่าว เพื่อขจัดปัญหา
ส่วนประเด็นที่2 ในหนังสือระบุอีกว่า เรื่องสัมปทานบ่อลูกรัง ขอให้นายสงวนออกระเบียบตามอำนาจที่พึงกระทำได้ให้สั่งปิดและยกเลิกสัมปทานบ่อลูกรังในเขตเทศบาลตำบลท่าแลงอย่างถาวรพร้อมกลับคืนผืนป่าให้ชาวบ้านได้มีสิทธิ์เข้าไปใช้ประโยชน์และช่วยกันดูแล ปลูกป่าส่งต้นไม้คืนป่า และดำเนินคดีผู้ที่กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ ดังนั้นขอให้นายสงวน ตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำผิด เนื่องจากเป็นการประกอบกิจการเกินความเหมาะสม โดยขาดการดูแลทรัพยากรไปพร้อมกัน ซึ่งการขุดลูกรังในปัจจุบันมีเจตนาทำแบบตัวคนเดียวโดยมีเจตนาเห็นแก่ตัว และผู้ประกอบการยังมีพฤติกรรมการใช้อำนาจและอิทธิพลความรู้ที่มีบิดเบือน ข่มขู่ และหลอกลวงให้ชาวบ้านหลงเชื่อ เป็นการไม่นำความเจริญให้กับชุมชน และไม่เคยสร้างความสามัคคีให้กับชุมชนมีแต่ยุยงให้คนในพื้นที่ต้องแตกแยก จึงขอให้นายสงวน จิตต์พุ่ม นายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ดำเนินการและใช้ความสามารถตามอำนาจหน้าที่ดำเนินการขจัดปัญหาเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สุขของชาวตำบลท่าแลงกลับคืนมา
 ด้านนายสงวน จิตต์พุ่ม นายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง หลังรับหนังสือจากตัวแทนชาวบ้าน ได้ระบุว่า การก่อสร้างโรงงานขยะผ่านขั้นตอนแล้วทั้งหมด ตนมีหนังสือและเอกสารผ่านขั้นตอนทั้งหมด ส่วนที่ชาวบ้านยื่นหนังสือเรียกร้องนั้นตนจะนำเรื่องประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันให้คำตอบเนื่องจากอยู่ในอำนาจของหลายหน่วยงาน ตนขอเวลาประมาณ15วัน พร้อมจะให้คำตอบต่อพี่น้องประชาชน ทำให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง แต่ขณะที่ชาวบ้านจะเดินทางกลับ นายชิน ขำเพชร ที่ปรึกษาบริษัทดับเบิ่ลยูพีจีอี เพชรบุรีืจำกัด ได้เดินเข้าไปในกลุ่มชาวบ้านโดยไม่ทราบเจตนา ทำให้ชาวบ้านต้องลุกฮือกันอีกครั้งหนึ่ง พร้อมมีเสียงตะโกนขับไล่ออกมาจากปากชาวบ้านว่า บุุคคลคนนี้ไม่ใช่พวกชาวบ้านแต่เป็นคนที่อื่นแล้วมาสร้างความแตกเเยก สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวท่าแลง  จนเจ้าหน้าที่ที่สังเกตุการณ์ต้องนำตัวนายชิน ออกไปจากกลุ่มชาวบ้าน จนสถานการณ์เข้าสู่ปกติและแยกย้ายกันไป


กสิพล ศิริลาภ-เพชรบุรี

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.