☆ข่าวแพร่☆ พบผู้เฒ้าวัย๙๑ปีอดีตวีรบุรุษเสรีไทย มือปราบเสือโคร่ง☆

☆ข่าวแพร่☆ ☆พบผู้เฒ้าวัย๙๑ปีอดีตวีรบุรุษเสรีไทย มือปราบเสือโคร่ง☆

เมื่อวันที่๒๕พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๑ ที่บ้านเลขที่๖๔ หมู่ที่๑ บ้านแป้น ตำบลเวียงต้า
อำเภอลอง จังหวัดแพร่ ผู้สื่อข่าวได้พบกับพ่อจันทร์ ณ.เชียงใหม่ อายุ๙๑ปี กำลังนั่งเล่นที่ม้าหินอ่อนภายในบ้าน โดยการนำพาโดยคุณพ่อขัยแก้ว ทองอินทร์ อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านแป้น ตำบลเวียงต้า โดยได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีและคุณพ่อจันทร์ ณ.เชียงใหม่ ก็ได้เล่าเรื่องที่อดีตเคยเป็นสมาชิกกลุ่มเสรีไทยของตำบลเวียงต้าโดยได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกกลุ่มเสรีไทยในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่๒ เมื่อพ.ศ.๒๔๘๔-๒๔๘๘โดยนายปรีดี พนมยงค์ หัวหน้ากลุ่มเสรีไทยได้มอบหมายให้นายทอง กัณทาธรรม แต่งตั้งสมาชิกเสรีไทย มีนายอินสม ณ.เชียงใหม่,(บิดาของพ่อจันทร์ ณ.เชียงใหม่ เป็นป่าไม้)นายจันทร์ ณ.เชียงใหม่,นายวงค์ ยานสกุล,นายประจัญ บ่อแก้ว,นายพินิจ จินารักษ์,นายเสาร์ จีนะพันธ์,นายณรงค์ อุดตุ้ย,นายบุญยืน ปัญญาฉลาด,นายจันทร์ ยอดคำ,นายวงค์ วิทูร,นายสี ยอดคำ,และนายวงค์ ยอดคำ ที่ตำบลเวียงต้า มีภารกิจให้ฝึกการใช้อาวุธ การรักษาเวรยาม การออกหาข่าวของทหารญี่ปุ่นจนได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้ากลุ่มเสรีไทยในการหาข่าวสารหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าม้าเร็วซึ่งคุณพ่อจันทร์ ณ.เชียงใหม่ เป็นผู้มีไหวพริบ เฉลียวฉลาดในการหาข่าวและได้ปฎิงานหน้าที่อย่างกล้าหาญและสกัดสายลับที่ได้ถูกทหารญี่ปุ่นว่าจ้างให้พามาหาที่หลบซ่อนตัวของทหารพันธมิตรที่ถ้ำเสรีไทยซึ่งเป็นที่หลบซ่อนตัวของทหารพันธมิตรโดยทหารญี่ปุ่นให้ม้ากับสายลับขี่มาแล้วทหารญี่ปุ่นก็ได้สกดตามรอยมาจนไกล้จะถึงที่หลบซ่อนของทหารพันธมิตรไม่ไกลจากที่หลบซ่อนโดยมีกลุ่มเสรีไทยแอบมองอยู่จนในที่สุดม้าที่สายลับขี่มาไม่ยอมเดินไปข้างหน้าและพาสายลับวี่งหนีเตลิดออกจากที่นั้นจนพาสายลับวี่งไปถึงแพะเปียงในเขตอำเภอหนองม่วงไข่ จึงได้ถูกกลุ่มเสรีไทยของอำเภอหนองม่วงไข่จังหวัดแพร่จับได้ว่าเป็นใส้ศึกจึงได้ทำการประหารชีวิตที่แพะเปียงทันทีจนในที่สุดทหารญี่ปุ่นก็ได้ออกค้นหาตัวสายลับที่หายตัวไปจนในที่สุดทหารญี่ปุ่นก็ได้เคลื่อนกำลังทหารเปลี่ยนทิศทางโดยใช้เส้นทางรถไฟจากอำเภอเเม่เมาะจังหวัดลำปางจนถึงการสู้รบระหว่างทหารพันธมิตรกับทหารญี่ปุ่นจนในที่สุดทหารพันธมิตรก็ได้ถล่มค่ายทหารที่อำเภอแม่เมาะจนสำเร็จและทำการระเบิดสะพานที่บ้านปินสะพานข้ามแม่น้ำยมและสกัดทหารญี่ปุ่นจนยอมพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่๒เมื่อพ.ศ.๒๔๘๘ จนประเทศไทยได้รับเป็นเอกราชในครานั้นนับได้ว่ากลุ่มเสรีไทยทั้งอำเภอหนองม่วงไข่และตำบลเวียงต้าที่ได้ปฎิบัติภารกิจร่วมกันอย่างกล้าหาญจนสงครามสงบลง จากนั้นพ่อจันทร์ ณ.เชียงใหม่ก็ได้ตั้งรากฐานที่บ้านแป้นและมีครอบครัวอยู้บ้านแป้น จนถึงปัจจุบัน จากนั้นพ่อจันทร์ ณ.เชียงใหม่ ก็ได้สร้างความกล้าหารให้กับชาวบ้านแป้นอีกรอบหนึ่งคือการปราบเสือโคร่งตัวใหญ่ที่ออกมาโขมยวัวชาวบ้านหมดไปหลายตัวจนในที่สุดพ่อจันทร์ จึงอาสาปราบเสือโคร่งเองจนฆ่าเสือโคร่งโดยปืนแก็ป สามปอปม้าดีดซึ่งเป็นอาวุธคู่กายของพ่อจันทร์เอง ขณะนี้พ่อจันทร์ ณ.เชียงใหม่อายุได้๙๑ปีและเป็นคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีเดินไปไหนสะดวกดี
 ณัฐปคัลภ์ ศรีคำภา ผู้สื่อข่าวรอบรั้วภูธรช่อง๑๓ สยามไทยรายงานจากจังหวัดแพร่




ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.