พะเยา ทำผักสวนครัวตามรอยพ่อสร้างได้งาม นานนับ 10 ปี

พรรณณีย์/พะเยา

ชาวบ้านในต​แำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ใช้พื้นที่ภายในบ้านปลูกพืชผักสวนครัว หลากหลายชนิด โดยใช้วิธีการทำแบบอินทรีย์ ตามรอยพ่อ ซึ่งจะเลือกพันธ์พืชที่มีความสมบูรณ์ดี ทานอร่อย เป็นที่ต้องการของตลาด ในแต่ละปีที่ทำจะมีพ่อค้าแม่ค้าเดินทางมารับซื้อ จนไม่สามารถผลิตได้ทัน


ผลผลิตที่มีทั้งกระหล่ำดอก บอคเคอรี่ ผักคะน้า กวางตุ้ง รวมทั้งพืชผักผลไม้อีกหลายชนิดที่กำลังสวยงามเบ่งบาน สามารถเก็บผลผลิตได้ แทบทุกอย่างเป็นการทำการเกษตรแบบพอเพียง ที่นายสมบูรณ์  ครองทรัพย์  ชาวบ้านท่าวังทอง เลขที่ 275 หมู่ที่ 1 ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ที่ปลูกขึ้นหลังจากว่างเว้นจากฤดูกาลทำนา โดยใช้พื้นที่ภายในบริเวณบ้านทำการปลูกขึ้น เนื่องจากมีพื้นที่ติดกับลำน้ำแม่อิง ซึ่งไหลมาจากกว๊านพะเยา ซึ่งทำให้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี  จึงสามารถปลูกผลผลิตได้ตลอดทั้งปี ประกอบกับตนเองมีอาชีพเกษตรกรรม  จึงได้ทำทุกอย่างที่เป็นการเกษตรเกษตร โดยมีการทดลองปลูกพืชผักสายพันธุ์ผักหลายๆ พันธุ์  และก็เลือกสายพันธุ์ที่ดี ทานแล้วอร่อยที่สุดมาปลูก นอกจากนั้นยังเป็นที่ต้องการของตลาด จึงทำให้มีลูกค้ามารับซื้อเป็นประจำเพราะผักของตัวเองจะหวานกรอบอร่อย เนื่องจากใช้วิธีการทำแบบเกษตรอินทรีย์ โดยบอคเคอรี่ จะขายในราคา ก.ก. ละ 40 บาท  กระหล่ำดอก ก.ก.ละ 30 บาท ผักที่ปลูกก็จะบอคเคอรี่ กระหล่ำดอก  ผักกวางตุ้ง ผักฮ่องแต้   ข้าวโพดหวาน จะปลูกสลับสับเปลี่ยนกันไปตามสภาพอากาศ  ในหนึ่งปี จะเลือกปลูกเพียงสองครั้งเท่านั้น  ผักจะมีรสชาติและคุณภาพดีก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเช่นกัน ถ้าปลูกในสภาพอากาศที่เหมาะจะทำให้มีคุณภาพ
 ในแต่ละวันจะมีลูกค้าภายในหมู่บ้าน และต่างหมู่บ้านเข้ามาซื้อถึงที่เพื่อจะได้ผักสดไปรับประทาน  นอกจากนั้นก็จะมีกลุ่มแม่ค้ามารับซื้อเพื่อไปขาย เพราะมีขาประจำอยู่แล้ว ผักจะไม่ใส่สาร ยาฆ่าแมลง จะใส่ปุ๋ยคอก เพราะที่บ้านเลี้ยงงัว จะนำปุ๋ยคอกที่ได้จากวัวมาใส่ในแปลงผัก  ทำให้ลูกค้าที่มาซื้อมั่นใจว่าผักปลอดสารพิษจริงๆ  ก่อนหน้านี้ก็ซื้อผักจากตลาดทั่วไปมารับประทาน  แต่ผักมีกลิ่นของยาฆ่าแมลง  จึงปลูกทานเองมาตลอดโดยเฉพาะผักที่ทานกันเป็นประจำจะปลูกไว้ทานเองทั้งหมด จากนั้นก็ทำการขยายแปลงออกไปจนทำให้เพื่อนบ้านมาซื้อไปทานกัน และมีการขยายตลาดมีแม่ค้ามารับซื้อไปขายต่อเป็นประจำ ทำให้เกิดรายได้เป็นอย่างดี แปลงผักแต่ละแปลงจะใช้เวลาในการปลูกประมาณสองเดือนก็จะเก็บผลผลิตได้  ต่อครั้งก็มีรายได้ไม่ต่ำกว่าสองหมื่นบาท  นอกจากนี้ยังมีมะละกอพันธ์ยาวพันธุ์แขกดำ มีความยาวถึง 60-70 เซ็นติเมตรที่ปลูกไว้ทั้งทานเองและแจกจ่ายเพื่อนบ้าน และขายให้กับแม่ค้าที่ใช้ทำส้มตำขายอีกด้วย ซึ่งจะปลูกทั้งออล์แลนด์ และแขกดำ สำหรับออล์แลนด์จะกินตอนสุกเพราะรสชาติจะหวานกรอบไม่แฉะ ซึ่งพอผลผลิตออกมาก็จะมีคนเดินทางมาซื้อจนหมด


ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.