นราธิวาส กลุ่มออมทรัพย์เทศบาลตำบลรือเสาะ 129ชีวิตใจชื่น แม้จะสิ้นชีวิต 1 ไม่ถูกทอดทิ้ง ที่พึ่งปรากฎ ปราบคนโกงเงินกว่า5ล้าน. พร้อมชูป้ายโปรเตอร์ “พวกเราเรียกร้อง ความถูกต้อง เป็นธรรม สู่องค์กร เราคือผู้เสียหายร้อยกว่าชีวิต เงินกว่า​ 5ล้านอยู่ที่ไหน”

ประพันธ์  ฤทธิวงศ์ / นราธิวาส

กลุ่มออมทรัพย์รือเสาะ 129ชีวิตใจชื่น แม้จะสิ้นชีวิต1 ไม่ถูกทอดทิ้ง ที่พึ่งปรากฎ ปราบคนโกงเงินกว่า5ล.

        จากกรณีสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์รือเสาะที่เคยร้องศูนย์ดำรงธรรมนราธิวาส เมื่อวันที่13 พ.ย.2561 .ที่ผ่านมา ท สมาชิกกลุุ่มออมทรัพย์เทศบาลตำบลรือเสาะกว่ เพื่อยื่นหนังสือร้องแก้ปัญหาถูกเบี้ยวเงินกว่า5ล้านบาท ในที่ห้องประชุมปริวรรตวรวิจิตร ชั้น 4 ศาลากลาง อ.เมืองนราธิวาส กลุ่มสมาชิกออมทรัพย์เทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ประกอบด้วยพนักงาน เจ้าหน้าที่ ลูกจ้างจำนวนกว่า 100 คน เข้ายื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.นราธิวาสหลังถูกเจ้าหน้าที่การเงินโกงเงินกว่า 5 ล้านบาท   

        โดยมีนายฉัตรชัย อุตสาหะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนราธิวาส เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียนจากตัวแทนสมาชิก พร้อมนายประภาศ มากทอง หัวหน้าสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส ร่วมพูดคุยเพื่อหาทางออกเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกัน
        โดยนางสาวกนกวรรณ ศรีอรุณ ประธานกลุ่มออมทรัพย์ฯ เดินมาพร้อมสมาชิกจำนวน 129 คนเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนราธิวาส โดยกลุ่มออมทรัพย์ได้ขอให้ทาง จ.นราธิวาส ตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดกับ นางระวิวรรณ สุลำนาจ กรรมการและเจ้าหน้าที่การเงินของกลุ่มออมทรัพย์ ทำหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการ การเบิกและการจ่ายเงินของกลุ่มออมทรัพย์ 

       โดยกลุ่มออมทรัพย์ขอให้ทาง จ.นราธิวาส ดำเนินการเรียกตัวนางระวิวรรณ สุลำนาจ มาเพื่อไกล่เกลี่ยหนี้คืนให้แก่สมาชิก จำนวนเงินกว่า 5 ล้านบาท พบเห็นว่านางระวิวรรณยังคงลอยนวลอยู่ในพื้นที่อ.รือเสาะ ไม่เกรงกลัวความผิดที่ได้กระทำไว้นั้น

      จากนั้นสมาชิกจำนวน 99 คน ได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.รือเสาะ ให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ โดยเจ้าพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนกรรมการทั้ง 7 คน รวมทั้งสอบสวนสมาชิกทั้ง 99 คน และได้สรุปสำนวนคดีส่งฟ้องต่อศาลอัยการ ต่อมาประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน ทางอัยการได้ส่งเรื่องกลับมาที่เจ้าพนักงานสอบสวนแจ้งถึงข้อบกพร่องเกี่ยวกับพยานหลักฐานของคดี
         และในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 เจ้าพนักงานสอบสวนได้มาประชุมชี้แจงให้กับสมาชิกออมทรัพย์ทราบถึงแนวทางในการดำเนินคดีของกลุ่มว่ายังขาดหลักฐานที่จะเอาผิดกับผู้กระทำผิด โดยให้ทางกลุ่มหาหน่วยงานเพื่อมารับรองบัญชีของกลุ่ม
        ในการนี้ทางสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์จึงเรียนมาเพื่อร้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหายซึ่งมีจำนวน 129 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อยหวังที่จะนำเงินที่เก็บออมมาเป็นทุนใช้จ่ายในยามเกษียณ
       ต่อมาเมื่อวันที 25 ธันวาคม 2561สำนักงานตรวจสอบบัญชีสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส เข้าตรวจสอบบัญชีของกลุ่มออมทรัพย์เทศบาลตำบลรือเสาะ ได้เข้ามาให้คำแนะนำเนื่องจากทางสำนักตรวจสอบบัญชีจังหวัดนราธิวาส ไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้ ไม่ใช่หน้าที่ของทางสำนักตรวจสอบบัญชีจังหวัดโดยแจ้งแก่คณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เทศบาลตำบลรือเสาะ ให้ตรวจสอบบัญชีของกลุ่มกันเอง
        และล่าสุด เมื่อวันที่3 มกราคม  2562 ที่ผ่านมา นายประพฤกษ์  นิลโมทย์ ปลัดเทศบาลตำบลรือเสาะได้นัดพบสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ เพื่อหารือปรึกษา ที่จะดำเนินการให้ทุกคนได้รับเงินคืน แม้ให้การพูดคุยครั้งนี้ มีหนึ่งชีวิตในสมาชิกได้เสียชีวิตแล้วก็ตาม ก็จะหาทางให้ได้รับเงินในส่วนที่ผู้ตายฝากไว้ มอบให้ผู้มีอำนาจสิทธิ์มารับรู้ความคืบหน้า
       ในขณะเดียวกันกลุ่มสมาชิกออมทรัพย์เทศบาลตำบลรือเสาะ ได้ชูป้ายโปรเตอร์ เขียนข้อความว่า “  เราคนงานเทศบาล ออมทรัพย์ ทั้งชีวิต โดนคนโกง สิ้นยางอาย ขอความเมตตา ช่วยเอาเงินคืนมา” และ”ทางเราเรียกร้อง ความถูกต้อง เป็นธรรม สู่องศ์กร เราคือ..ผู้เสียหายร้อยกว่าชีวิต เงินกว่า 5 ล้าน อยู่ที่ไหน”
         นายประจักษ์  รัตนกิจสมบูรณ์  1 ในกลุ่มสมาชิกออมทรัพย์เทศบาลตำบลรือเสาะ กล่าวว่า “ พวกเราต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม เงินออมทรัพย์ที่หายไป ณ วันนี้ พวกเราเดือดร้อน 100 กว่าชีวิต  หากมีผู้ช่วยเหลือด้านกฎหมาย ที่จะมาช่วยแก้ ก็ขอให้เข้ามาช่วยเร็วๆนี้ เพราะเราเดือดร้อนมาก  เราหาเช้ากินค่ำ ฝากเงินไว้ เพื่อที่ปลดเกษียณอายุ 60 ปี โดยไม่ต้องพึ่งลูกหลาน ความหวังของคนที่ทำงานกำลังสิ้นหวัง เพราะมีการโกง ก็ได้มีผู้ที่ล้มตายไปแล้วโดยที่ไม่รอเงินนี้ คนทำผิดยังลอยนวลอยู่ ณ วันนี้
     นางสาวจุฑามาศ  กลั่นศิริ 1 ในสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เทศบาลตำบลรือเสาะ กล่าวว่า พวกเราตอนนี้ จะให้ทุกๆฝ่ายได้ช่วยกัน ในเรื่องของเรียกร้องขอเอาสิทธ์ของพวกเราคืน เงินส่วนที่เราได้ลงหุ้นกัน ตอนนี้อยู่ในช่วงดำเนินคดี และอยู่ในช่วงหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็ขอขอบคุณทุกภาคส่วนและทางผู้ใหญ่ ที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลพวกเรา หวังว่าคงจะช่วยเหลือ ต่อไป อย่าพึ่งทิ้งปล่อยมือพวกเรา อย่าทิ้งพวกเรา เรารอความหวัง จากท่านผู้ใหญ่ เพราะว่ากำลังของพวกเรา ก็พยามอดทนถ้าไม่ได้ทางผู้ใหญ่ทางราชการมาช่วย ก็คงไม่สำเร็จ ก็ขอขอบคุณมา ณโอกาสนี้

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.