ชาวนราธิวาส ครึ่งหมื่น ฟังปราศรัยของพรรคประชาชาติ ถึงเทียงคืน


อับดุลหาดี/10 ก.พ. 62
   
       พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ  นายวรวีร์ มะกูดี รองหัวหน้าพรรค นายอารีเพ็ญ อุตรสินธ์ รองหัวหน้าพรรค  พลตำรวจโทอนุรุต กฤษณะการะเกตุ กรรมการบริหารพรรค และผู้สมัครพรรคประชาชาติ เขต 1 นายมาหะมะรอปี เจ๊ะแว เบอร์ 3 เขต 2 นายสารี สะมะแอ เบอร์ 11 เขต 3 นายกูเฮง ยาวอหะซัน เบอร์ 2 และนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ เบอร์ 1 ลงพื้นที่ หาเสียง บริเวณตลาดน้ำยะกัง ขนมโบราณ 100  ปี  อ.เมือง จ.นราธิวาส

       ก่อนที่จะขึ้นเวทีปราศรัยที่สนามจำปากอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จนถึงเทียยงคืน มีประชาชนให้ความสนใจ รับฟัง นโยบาย และ ขอถ่ายรูป เป็นจำนวนมากกว่า 3,000 คน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอย่างเข็มงวดและเป็นพิเศษ  
      พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ  กล่าวว่า  “ บรรยากาศวันนี้ผมเชื่อว่าคนทั้งประเทศที่ได้รับชมการไลฟ์สด จะต้องรู้สึกแปลกใจเพราะว่าปกติ พอพูดถึงจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็จะมีคนมองว่า ยังมีอีกหรือที่จะมีการปราศรัยตอนกลางคืนเวลา 22:00 น. แล้วยังมีการปราศรัย ภาพของจังหวัดชายแดนภาคใต้คือภาพของความไม่ปลอดภัยคนนอกจะคิดว่าเวลาตอนค่ำ ชาวบ้านจะอยู่ในบ้าน ไม่มีใครกล้าออกมา วันนี้ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นและรู้สึกตกใจว่าทำไม มีผู้มา เข้าฟังการปราศรัยทางการเมือง มากเหลือเกิน”
       เรื่องการเมืองเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนทุกคน การเมืองจะเกี่ยวของกับคนทุกรุ่น การเมืองจะเกี่ยวข้อง ตั้งแต่คลอดจากครรภ์มารดาไปถึงตายหรือไปกุโบร์ การเมืองไม่มีคนรุ่นใหม่หรือคนเก่า การเมืองจะไม่กำหนดว่าใครจะอายุเท่าไหร่ และที่สำคัญอย่างยิ่ง วันนี้การเมืองนอกจากจะเกี่ยวข้องกับผู้ที่มาทำหน้าที่การเมืองแล้วยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง
      พรรคประชาชาติ เป็นพรรคที่มาเปิดตัวในจังหวัดปัตตานี มาเปิดตัวในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คนก็เข้าใจว่าพรรคประชาชาติเป็นพรรค คน 3 จังหวัด แต่เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา เราได้ส่งผู้สมัคร จำนวนทั้งสิ้น 215 เขต ในสามจังหวัดมี 11 เขตและอีก 200 เขต มากที่สุดคืออีสาน กรุงเทพฯ 30 เขต เราส่งครบ ภาคเหนือ 27 เขต โดยเฉพาะคนภาคเหนือจะมีความรู้สึกเหมือนคนภาคใต้ ปัญหาของคนภาคเหนือ คือ คนบนยอดดอย ทั้ง 27 เขต จะมีปัญหา กลุ่มชาติติพันธ์ หรือ เป็นคนกลุ่มน้อย หรือเป็นคนที่ไม่ได้รับสิทธิเสรีภาพเท่ากับคนส่วนใหญ่
        พรรคประชาชาติจึงเป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์สูงสุด ก็คือเรามองว่ามนุษย์เป็นผู้มีความสำคัญ ดังนั้นมนุษย์ ไม่ว่าจะมีความแตกต่างทางด้านถิ่นกําเนิด ภาษาวัฒนธรรมประเพณี เพศ ชาติติพันธ์หรือศาสนาทุกคนต้องมีความเท่าเทียมกัน
     อยากให้พรรคประชาชาติเป็นพรรคของพวกเราทุกคนไม่ใช้เป็นพรรค คุณวันนอร์ ไม่ใช่เป็นพรรค ของผม แต่เป็นพรรคของพี่น้อง เพราะพรรคประชาชาติจะเป็นพรรคการเมืองที่จะคืนสิทธิ์ให้กับประชาชน และพรรคประชาชาติจะเป็นพรรคการเมืองที่จะคืนอำนาจให้ประชาชน พรรคประชาชาติจะเป็นพรรคการเมืองที่จะคืนความยุติธรรมให้ประชาชน พรรคประชาชาติเป็นพรรคที่แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำให้ประชาชน
     วันนี้ได้มาเยี่ยมพี่น้องที่ตลาดน้ำยะกังขนม 100 ปี ได้เห็นสภาพของเศรษฐกิจชุมชนแล้วก็เป็นวัฒนธรรมเป็นเศรษฐกิจชุมชนซึ่งสภาพลักษณะนี้เป็นจุดแข็งของพื้นที่และเป็นความสุขและเป็นวิถีชีวิต โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งมีเหตุการณ์ความไม่สงบ บรรยากาศของความขัดแย้ง วันนี้ถึงเวลาเป็นจุดเปลี่ยน ที่เราจะคืนเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และความเจริญรุ่งเรือง ให้กับคน จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นนโยบายหลัก หนึ่ง ที่ถูกบรรจุไว้ เพราะปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้คือปัญหาของประเทศเป็นวาระแห่งชาติด้วย
     ดังนั้น โมเดลของตลาดน้ำยะกังก็ เป็นอีกหนึ่งแบบอย่าง ที่ใช้คุณค่าทางวัฒนธรรม ขนมร้อยปี ก็เป็นวัฒนธรรมที่ บรรพบุรุษได้สร้างองค์ความรู้ไว้ ไปดูร้านค้า 60 ร้านก็มีของขายไม่ซ้ำกันเลย เป็นอัตลักษณ์ ของ อาหาร ที่สำคัญคือ ความสะอาดและราคาถูก ทำให้เป็น ศูนย์รวมของพี่น้องประชาชน เป็นตัวอย่างที่ควรจะมีตลาดแบบนี้ทั่วประเทศ จะเอาโมเดลของตลาดยะกังไปใช้พัฒนาพื้นที่อื่นด้วย พรรคประชาชาติมีนโยบายที่จะเอาที่สาธารณะต่างๆมาเป็นตลาดไว้ให้กับประชาชนเพราะเป็นสินค้าที่มาจาก ภูมิปัญญาท้องท้องถิ่น มีความสะอาดและปลอดภัย พรรคประชาชาติเป็นพรรคที่ตั้งใจจะแก้ปัญหาของประเทศ ซึ่งปัญหาของประเทศใหญ่ๆ คือปัญหาความเหลื่อมล้ำปัญหาความยากจนและปัญหาการผูกขาดทรัพยากรโดยเฉพาะรากเหง้าของปัญหาทุกวันนี้คือการคิดรวมอำนาจคือรัฐรวมศูนย์ไว้ทั้งหมดคิดว่ารัฐจะต้องเป็นผู้แก้ปัญหาซึ่งวิธีคิดของพรรคประชาชาติเราคิดว่ามนุษย์ทุกคนมีคุณค่า มีความรู้ความสามารถ ดังนั้นเรื่องสำคัญเราเชื่อว่าการเมืองในระบอบประชาธิปไตยเป็นการเมืองที่เหมาะสมเราก็พบว่า วิธีการของเผด็จการไม่สามารถแก้ปัญหาประเทศชาติได้

       สำหรับการส่งผู้สมัครในสามจังหวัดก่อนหน้านี้เรามีความมั่นใจว่าเราจะได้  5 เขต แต่ตอนนี้เราเห็นความมั่นใจ ทั้ง 11 เขต เราน่าจะได้ สส. ทั้งหมด เพราะว่าเราไม่ได้ใช้ความรู้สึกในการประเมินแต่เราใช้วิธีการสำรวจทางการศึกษา พรรคประชาชาติ ไม่ได้เป็นที่นิยมเฉพาะตัวบุคคล เนื่องจากนโยบายเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชน ได้ประโยชน์ เราสร้างคน สร้างโครงสร้างองค์ความรู้ สร้างอาชีพ และสร้างชาติ เราเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เอาปัญหาความต้องการของประชาชนเป็นตัวตั้ง เพื่อมากำหนดนโยบาย เราเชื่อมั่นว่าในสามจังหวัดเราจะได้ ส.ส. ทุกเขต




ภาพ/ข่าว
อับดุลหาดี เจ๊ะยอ

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.