เปิดใจครั้งแรก หนุ่มโรคไต หลังถูกโซเชี่ยลถล่มเละ นำเงินบริจาคซื้อรถยนต์



     
หนุ่มป่วยโรคไต เปิดใจครั้งแรก หลังสื่อโซเชี่ยลกระหน่ำลวงโลก นำเงินบริจาครักษาตัวไปซื้อรถยนต์ ซื้อโทรศัพท์ให้แฟนสาว  กระแสสื่อโซเชี่ยลและเฟสบุ๊ค จากเพจดังต่างๆ โจมตีหนุ่มป่วยโรคไต นายศรายุทธ พ่วงสอาด อายุ 28 ปี หรือ นายเพียว ว่าได้นำเงินที่ประชาชนบริจาคร่วมทำบุญช่วยเหลือเพื่อรักษาตัวขณะป่วยเป็นโรคไตระยะที่ 5 ที่ได้ยอดเงินบริจาคกว่า 8 แสนบาท ไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค โดยนำไปซื้อรถยนต์ ซื้อโทรศัพท์มือถือและนำไปใช้หนี้สินต่างๆ
*****ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านนายเพียว ที่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 3 ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ  จ.ตราด  เพื่อสอบถามความจริง โดยพบกับนายเพียวกำลังล้างไตอยู่ในห้อง ผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามแม่ของนายเพียว ซึ่งคุณแม่นายเพียวได้วิงวอนสังคมให้หยุดว่าลูกตนลวงโลก เหตุผลที่ลูกต้องนำเงินบริจาคมาซื้อรถมือสองในราคา 3 แสนกว่าบาทนั้น โดยทางครอบครัวได้ปรึกษาและเห็นว่า การเดินทางที่ต้องนำน้ำยาล้างไตไปตรวจที่โรงพยาบาลชลบุรีแต่ละครั้งนั้นต้องเช่ารถไปกลับครั้งละ 3000 พันบาท ต่อครั้ง ซึ่งยอมรับว่ามันเป็นเงินบริจาคที่ช่วยเหลือให้รักษาตัวจริง ถ้าเกิดการกระทำครั้งนี้มันผิดพลาดด้วยความจำเป็นก็ต้องขอโทษทางสังคมและผู้ใจบุญที่ร่วมบริจาคเงินช่วยลูกชายด้วย
*****ด้านนายศรายุทธ  พ่วงสอาด หรือนายเพียว ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้นำเงินที่ผู้ใจบุญบริจาคนำซื้อรถจริง และเป็นชื่อของตนเองไม่ใช่เป็นชื่อพ่อตาเหมือนที่กระแสข่าวโซเชี่ยลได้กล่าวถึง ส่วนเรื่องที่บอกว่าตนซื้อโทรศัพท์ให้แฟนนั้นไม่เป็นความจริง ตนเองยอมรับว่าซื้อโทรศัพท์แต่ซื้อไว้ใช้เองเพราะเครื่องเก่าที่ใช้อยู่มันพังจึงซื้อเครื่องใหม่มาใช้ ส่วนรูปที่เห็นในโซเชี่ยลว่าตนถือโทรศัพท์ถ่ายรูปกับแฟนรูปนั้นเป็นรูปถ่ายคู่กันเท่านั้น  ซึ่งตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนเอารูปจากเฟชบุ๊คของตนมาลงเพื่อสร้างกระแส  โดยตนเองไม่ได้นำเงินบริจาคช่วยเหลือจากผู้ใจบุญมาซื้อโทรศัพท์ให้แฟนแต่อย่างใด  ส่วนรถยนต์กระบะตนเองยอมรับว่าซื้อมาจริงและตนต้องกราบขอโทษที่ต้องนำเงินบริจาคมาซื้อรถกระบะ ซึ่งมันจำเป็นมากสำหรับผู้ป่วยอย่างตนเอง ที่ต้องนำน้ำยาล้างไตไปตรวจยังโรงพยาบาลที่ จ.ชลบุรี ซึ่งมันมีหลายลังไม่สามารถเอาไปได้ และต้องเช่ารถเพื่อนบ้านครั้งละ 3000 บาท ตนเห็นว่าได้เงินมาก็อยากจะลดค่าใช้จ่ายลงบ้าง และที่สำคัญหากตนเองแข็งแรงขึ้นมาบ้างก็จะนำรถกระบะไปทำมาหากินต่อยอดสร้างรายได้เลี้ยงยายบ้าง ส่วนที่มีกระแสว่าตนเองนำเงินไปให้แม่ 1 แสนบาทก็ไม่เป็นความจริง ซึ่งเงินแสนบาทตนเองเอาไปใช้หนี้แม่ยายซึ่งยืมมาตอนป่วย โดยแม่ยายได้นำที่ดินไปจำนองไว้ จึงได้คืนเงินให้แม่ยายไปถ่ายที่คืน
******นายศรายุทธยังกล่าวอีกว่า ตนเองขอโทษถ้าสังคมมองว่าตนเองใช้เงินฟุ่มเฟือยหรือลวงโลก ซึ่งขอยอมรับผิด แต่ยังคงยืนยันว่าไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หรือลวงโลกแต่อย่างใด และยอดเงินที่ผู้ใจบุญร่วมบริจาคมาทั้งหมด 8 แสน ขณะนี้ยอดเงินในบัญชีเหลือ 3 แสนกว่าบาท ซึ่งตนเองจะนำไปใช้กับสิ่งที่จำเป็นที่สุด                        

ภาพ/ข่าว นิมิตร คชพร ทีมข่าวภูมิภาคจังหวัดตราด 5 ก.พ.  62

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.