มาครบ ผู้สมัคร ส.ส เขต โคราช พช. ทักษิณ 3 คน ยิ่งลักษณ์ 1 คน เผยสาเหตุเปลี่ยนชื่อต้องการสร้างสีสันสนามการเมืองได้เป็นเซเลปข้ามคืน สามารถแย่งพื้นที่ข่าวหน้าหนึ่งได้

ที่โรงแรมซิตี้พาร์ค อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มผู้สมัคร ส.ส เขต จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อชาติ (พช.) ที่เปลี่ยนชื่อใหม่ โดยมีนายทักษิณ ชื่อเดิมสถิตคุณ เขื่อนโคกสูง ผู้สมัครเขต 4 นายทักษิณ ชื่อเดิมประกาศ จันทรวิจิตร เขต 6 นายทักษิณ ชื่อเดิมวีรวิทย์ เชื้อจันอัด เขต 7 และนางยิ่งลักษณ์ ชื่อเดิมกนกวรรณ เพชรรักษา เขต 10 ได้มารอขึ้นรถตู้โดยสาร ซึ่งมีสถานีโทรทัศน์ช่องดังของประเทศไทยมารับพาไปห้องส่งที่กรุงเทพ ฯ เพื่อออกรายการข่าวในช่วงหัวค่ำ

นายทักษิณ หรือสถิตคุณ ผู้สมัคร เขต 4 เปิดเผยว่า สาเหตุสำคัญของการเปลี่ยนชื่อสืบเนื่องมาจาก พช.ไม่มีทุนทรัพย์เหมือนพรรคการเมืองใหญ่ เพื่อใช้การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ จึงได้คิดหาแนวทางสร้างสันสีให้เป็นจุดเด่น สามารถเกาะอยู่ในกระแสข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์และช่องข่าวโทรทัศน์เพื่อให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ในลงพื้นที่พบปะชาวบ้านในเขตเลือกตั้ง ส่วนใหญ่คิดถึงอดีตยุคสมัยประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีชื่อทักษิณและยิ่งลักษณ์ เศรษฐกิจมีความคึกคักดี อยู่ดีกินดีรวมทั้งเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ จึงพากันไปเปลี่ยนชื่อใหม่ก่อนยื่นเอกสารหลักฐานการสมัคร ปรากฏได้สร้างกระแสเป็นอย่างดี ตนจึงขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจนำภาพข่าวผู้สมัคร ส.ส เขต โคราช พช. นำเสนอติดต่อกันถึง 2 วัน หากคิดเป็นมูลค่าคงจะเป็นเงินค่าโฆษณาหลายล้านบาท ทำให้พวกเราทั้ง 4 คน เป็นทีรู้จักอย่างแพร่หลายไปไหนมีแต่คนมาขอถ่ายเซลฟี่รวมทั้งขอบคุณหน่วยงานความมั่นคงที่ติดตามดูแลรักษาความปลอดภัยให้พวกเราเป็นอย่างดี

นางยิ่งลักษณ์ หรือกนกวรรณ ผู้สมัคร เขต 10 กล่าวว่า การเปลี่ยนชื่อเป็น “ยิ่งลักษณ์ ” ได้สร้างความฮืออาและความตื่นเต้นให้กับประชาชนในเขตเลือกตั้ง สร้างกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ตนเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ ที่แทบไม่มีใครรู้รักมากนัก เพียงแค่ข้ามคืนมีคนรู้จักกันทั้งจังหวัด ทำให้หาเสียงง่ายขึ้น แต่ต้องขยันลงพื้นที่พบปะประชาชนให้รู้จักคุ้นเคยมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้เป็นที่พึ่งของประชาชน

นายทักษิณ หรือวีรวิทย์ ผู้สมัครเขต 7 กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเปลี่ยนชื่อ “ ทักษิณ ” วิถีชีวิตดีขึ้น ธุรกิจหน้าที่การงานประสบความสำเร็จมากขึ้นรวมทั้งถูกหวยเลขท้าย 3 ตัว อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนชื่อถือเป็นสีสันบนสนามการเลือกตั้งไม่มีนัยยะแต่อย่างใด